วันที่ 13 ส.ค.67 ที่โรงเรียนเทศบาล 3 (บ้านบ่อ) ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี น.พ.ปริพนท์ จุลเจิม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานจัดกิจกรรมรณรงค์เฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคในสถานศึกษา และกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 3 (บ้านบ่อ)  คณะครู/นักเรียน  และภาคีเครือข่ายหน่วยงานและเครือข่ายชุมชน  อสม.ชุมชนบ้านบ่อ คณะครู สภานักเรียนและนักเรียนร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

นายแพทย์ปริพนท์ จุลเจิม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกประเทศไทยมีจำนวนผู้ป่วย 56,871 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 86.07 ต่อประชากรแสนคน เสียชีวิต 44 คน คิดเป็นอัตราตาย 0.07 ต่อแสนประชากร สำหรับสถานการณ์โรคไข้เลือดออกจังหวัดกาญจนบุรี (จำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกอยู่อันดับที่ 46 ของประทศ) ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-10 สิงหาคม 2567  มีรายงานผู้ป่วย 592 ราย เสียชีวิต 1 ราย (อัตราป่วย 66.20 ต่อประชากรแสนคน) โดยพบมากที่สุดอำเภอห้วยกระเจา จำนวน 46 ราย (อัตราป่วย 135.84 ต่อประชากรแสนคน) 

รองลงมาคืออำเภอหนองปรือ จำนวน 37 ราย (อัตราป่วย 117.32 ต่อประชากรแสนคน) และอำเภอเลาขวัญ จำนวน 61 ราย (อัตราป่วย 104.35 ต่อประชากรแสนคน) ตามลำดับ มีผู้ป่วยเสียชีวิต 1 ราย ที่อำเภอท่าม่วง คิดเป็นอัตราตาย 0.11 ต่อประชากรแสนคน เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงนี้เป็นฤดูฝน มีฝนตกอย่างต่อเนื่องและมียุงลายชุกชุม ทำให้โรคไข้เลือดออกสามารถแพร่ระบาดได้ง่าย  ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพ “อย่าให้ยุงกัด” พร้อมขอให้ร่วมปฏิบัติตามมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” เพื่อป้องกันโรคติดต่อนำโดยยุงลาย ได้แก่ โรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา

น.พ.ปริพนท์ จุลเจิม ยังกล่าวคำแนะนำในการดูแลตนเอง ป้องกัน  “ไม่ให้ยุงกัด”  โดยสวมใส่เสื้อผ้าสีอ่อน ไม่อยู่ในที่มืด อับทึบ  ใช้สารไล่ยุงชนิดต่างๆ หรือยาทากันยุง ใช้ไม้ช็อตยุง นอนในมุ้ง เป็นต้น นอกจากนี้ขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ตามมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” ดังนี้

1. เก็บบ้านให้สะอาด เช่น พับเก็บเสื้อผ้าใส่ในตู้หรือแขวนให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง 
2. เก็บขยะที่อยู่บริเวณรอบบ้าน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ตัดแต่งกิ่งไม้และบริเวณรอบบ้านให้โปร่งโล่ง 
3. เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำเพื่ออุปโภค บริโภค ต้องปิดฝาให้มิดชิด ล้างคว่ำภาชนะใส่น้ำ และเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันทุกสัปดาห์ ป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ ซึ่งจะสามารถป้องกันได้ 3 โรค คือ 1.โรคไข้เลือดออก  2.โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และ 3.โรคไข้ปวดข้อยุงลายหรือโรคชิคุนกุนยา 

ทั้งนี้ หากมีอาการไข้สูง ร่วมกับอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูก ปวดกระบอกตา บางรายอาจมีปวดท้อง อาเจียน มีจุดแดงเล็กๆ ตามแขน ขา ลําตัว มีเลือดออกผิดปกติ เบื่ออาหาร จุกแน่นลิ้นปี่ หรือสงสัยว่าป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ห้ามรับประทานยาลดไข้กลุ่ม NSAID เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคให้ชัดเจน ช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิต ส่วนเด็กๆ ที่ยังไม่สามารถบอกอาการของตนเองได้ ผู้ปกครองต้องสังเกตอาการใกล้ชิด หากรับประทานยาลดไข้ 2 วันแล้วไม่ดีขึ้น ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นโรคไข้เลือดออก และให้รีบไปพบแพทย์  หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกสามารถโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค  1422