“มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” สำหรับการแก้ไขปัญหาลูกหนี้ กยศ.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ (ปัตตานี นราธิวาส ยะลา)และจังหวัดสงขลา กระทรวงยุติธรรม - กยศ. จับมือ เปิดเวทีใหญ่อีกครั้ง ผ่อนคลายหนี้และเชิญชวนลูกหนี้ กยศ. เข้าร่วมปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งก่อนฟ้อง/ หลังศาลมีคำพิพากษา จำนวนกว่า 138,051 ราย คิดเป็นทุนทรัพย์รวม 15,957,999,647.05 ล้านบาท
วันที่ 13 สิงหาคม 2567 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ณ ห้องประชุม 10-01 อาคารกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ส.ส.จ.ยะลา เขต 2 พรรคประชาชาติ นำคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ประกอบด้วย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่้าการกระทรวงยุติธรรม รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อธิบดีกรมบังคับคดี รองอธิบดีกรมบังคับคดี รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมแถลงข่าว เพื่อเตรียมจัดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” เพิ่มเติม สำหรับลูกหนี้ กยศ.ที่พลาดโอกาสเข้าร่วมงานมหกรรมแก้หนี้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ (ปัตตานี นราธิวาส ยะลา) และจังหวัดสงขลา ที่ผ่านมา
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม”เพิ่มเติม ครั้งนี้ ว่านับตั้งแต่กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้แก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2566 ลูกหนี้กยศ.จะได้รับสิทธิประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้เป็นอย่างมาก โดยมีการคำนวนภาระหนี้ใหม่ เปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้ โดยตัดเงินต้นเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ตัดดอกเบี้ย ตัดเบี้ยปรับ ตามลำดับ เมื่อเข้าทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากหนี้ โดยมีเงื่อนไขชำระทุกวันที่ 5 ของทุกเดือนระยะเวลาไม่เกิน 15 ปี งวดสุดท้ายอายุไม่เกิน 65 ปี เบี้ยปรับ พักแขวนไว้เมื่อชำระงวดสุดท้ายเสร็จสิ้นจะลดเบี้ยปรับ 100 % หากผิดนัดสะสม 6 งวด สัญญาปรับโครงสร้างหนี้สิ้นสุด กลับมาชำระหนี้ตามสัญญาเดิม ซึ่งที่ผ่านมามีลูกหนี้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมปรับโครงสร้างหนี้เป็นจำนวนมาก
สืบเนื่องมาจากกระทรวงยุติธรรม ได้มอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี ร่วมกับสถาบันการเงิน และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จัดงานมหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ทั่วประเทศขึ้น รวมจำนวน 81 ครั้ง ครอบคลุมครบทุกจังหวัด โดย ครั้งที่ 1 จัดที่กรุงเทพมหานคร ณ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เมื่อวันที่ 27-28 มกราคม 2567 จนถึงปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 53 ครั้ง (ข้อมูล ณ วันที่ 12 สิงหาคม 2567) สามารถช่วยเหลือลูกหนี้ที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยสำเร็จไปแล้ว 56,658 ราย ทุนทรัพย์รวม 12,057,518,361 บาท
โดยสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนได้ถึง 3,892,247,784.46 บาท โดยแยกเป็นลูกหนี้ กยศ. ถึง 50,893 ราย และในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ได้รับความสนใจจากลูกหนี้กยศ. เป็นจำนวนมาก แต่แผนงานกำหนดจัดงานในแต่ละพื้นที่กำหนดไว้เพียง 1 วัน ทำให้ไม่สามารถรองรับกับความต้องการของลูกหนี้ กยศ. ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ได้ทั้งหมด สำหรับลูกหนี้ กยศ.ที่พลาดโอกาสเข้าร่วมงานมหกรรมแก้หนี้ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ (ปัตตานี นราธิวาส ยะลา) และจังหวัดสงขลา กระทรวงยุติธรรม โดย พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง จึงได้มอบหมายให้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี สำนักงานยุติธรรมจังหวัดในพื้นที่ จับมือกับสถานศึกษาและกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) อีกครั้ง
ทั้งนี้ได้กำหนดจัดงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เพิ่มเติม ดังนี้ จังหวัดสงขลา กำหนดจัดครั้งที่ 2 ในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ณ มหาวิทยาลัยทักษิณ มีลูกหนี้กยศ. เข้าเกณฑ์ปรับโครงสร้างทั้งสิ้น 79,588 ราย โดยจัดไปแล้วครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 มีลูกหนี้ กยศ. ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้แล้วจำนวน 1,943 ราย คงเหลือกว่า 77,645 ราย จังหวัดปัตตานี กำหนดจัดครั้งแรก ในวันที่ 18-19 สิงหาคม 2567 ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มีลูกหนี้ กยศ.เข้าเกณฑ์ปรับโครงสร้างทั้งสิ้น 45,372 ราย จังหวัดนราธิวาส กำหนดจัดครั้งที่ 2 ในวันที่ 17-19 สิงหาคม 2567 ณ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มีลูกหนี้ กยศ.เข้าเกณฑ์ปรับโครงสร้าง 57,313 ราย โดยจัดไปแล้วครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 มีลูกหนี้ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้แล้วจำนวน 2,153 ราย คงเหลือกว่า 55,160 ราย
ส่วน จังหวัดยะลา กำหนดจัดครั้งที่ 2 ในวันที่ 11 - 12 กันยายน 2567 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา มีลูกหนี้ กยศ.เข้าเกณฑ์ปรับโครงสร้าง 35,366 ราย โดยจัดไปแล้วครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2567 มีลูกหนี้ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้แล้วจำนวน 1,030 ราย คงเหลือกว่า 34,336 ราย รวมลูกหนี้ กยศ.ที่เข้าเกณฑ์จะได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ คงเหลือกว่า 215,513 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 12 สิงหาคม 2567): ข้อมูลจาก กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและ กยศ.
สำหรับสิทธิประโยชน์ของลูกหนี้ กยศ.หากเข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ 1. ปลดภาระผู้ค้ำประกัน 2. ผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 15 ปี 3. ชำระเสร็จตามสัญญาลดเบี้ยปรับ 100 % 4. ดอกเบี้ย 1 % 5. เบี้ยปรับ 0.5 % 6. กรณีผู้กู้ยืมที่ถูกบังคับคดี กยศ.จะแถลงของดการบังคับคดี ทั้งนี้หากมีผู้มีส่วนได้เสียอื่นต้อง ได้รับความยินยอมจากผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย 7. กรณีผู้ค้ำประกันถูกบังคับคดี กยศ.จะถอนการบังคับคดี
พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวต่อด้วยว่า กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้แก่ลูกหนี้ที่ต้องการความช่วยเหลือด้วยความสมัครใจเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน ในปีนี้กระทรวงยุติธรรม โดย กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและกรมบังคับคดี ยังคงเดินหน้าแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนที่เป็นหนี้กองทุนเงินให้กู้เพื่อการศึกษา ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต ที่ผิดนัดชำระหนี้ เข้าเกณฑ์จะถูกฟ้องดำเนินคดี หรือไม่มีกำลังผ่อนชำระตามสัญญาได้รู้สิทธิตามกฎหมายและเข้าถึงความยุติธรรม รวมถึงสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผน และสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน เพื่อเป็นเกราะป้องกันปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน
ขณะที่ ช่องทางการเข้าร่วมงานครั้งนี้ ประชาชนที่มีความสนใจ และต้องการสอบถามข้อมูลหรือข้อสงสัยต่างๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อผ่านช่องเว็บไซต์ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศ หรือสอบถามผ่าน สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111 กด 77 และสายด่วนกรมบังคับคดี โทร. 1111 กด 79 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมงหรือ โทร 0 2141 2773, 0 2141 2767, 0 2141 2777 และ 08 1 763 9156 และลงทะเบียนนัดหมายที่ WWW.STUDENTLOAN.OR.TH (กยศ.)