วันที่ 13 ส.ค.67 เพจเฟซบุ๊ก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้โพสต์ข้อความถึงการปฏิบัติการช่วยเหลือ ลูกพะยูนเกยตื้น บริเวณเกาะปอดะ ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 

นอกจากนี้ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า...ดร.ปิ่นสักส์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้กล่าวถึงสถานการณ์ลูกพะยูนเกยตื้นว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ศวอล.) รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ว่ามีนักท่องเที่ยวพบลูกพะยูนมีชีวิต​ว่ายเพียงลำพัง ​​บริเวณเกาะปอดะ ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่​ จึงได้ประสานงานเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นและทำการขนย้ายมารักษาและอนุบาลที่สถาบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นลูกพะยูน เพศผู้​ อายุประมาณ​ 1-2 เดือน ความยาว 102 ซม. น้ำหนัก 13.8 กก. ลูกพะยูนสภาพอ่อนแรงและตาจมลึกแสดงถึงภาวะขาดน้ำ แต่ยังสามารถยกหัวขึ้นหายใจได้ พบรอยบาดแผลบริเวณส่วนจมูกและหัวเล็กน้อย ร่างกายค่อนข้างผอม บริเวณตาซ้ายขุ่น เสียงปอดมีความชื้นเล็กน้อย​ ลำไส้มีการบีบตัว​ และพะยูนยังมีความอยากกินอาหาร ทีมเจ้าหน้าที่ให้การดูแลตลอด​ 24​ ชั่วโมง​ โดยมีการป้อนนมทดแทนและน้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อชดเชยภาวะการขาดน้ำ​​ มีการใช้นมผงเด็กเป็นนมทดแทนให้กับพะยูน​ และทางสัตวแพทย์​จะวางแผนในการตรวจสุขภาพ​อย่างละเอียดต่อไป

ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้โพสต์คลิปอัพเดท อาการน้องพะยูนเกยตื้น พร้อมระบุข้อความว่า...ตอนนี้ น้องพะยูนอาการดีขึ้น กินอิ่ม และเริ่มว่ายสำรวจบ่ออนุบาลฯ ค่ะ มาร่วมส่งกำลังใจให้พี่ๆ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ช่วยกันช่วยชีวิตและดูแลน้องพะยูนนะคะ

และล่าสุด ได้อัพเดทอาการลูกพะยูนเพิ่มเติม ระบุว่า...หลังได้รับการช่วยเหลือ และได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่ เริ่มว่ายน้ำและทรงตัวได้ดีขึ้น ลดอาการเครียดลงไปเยอะ แต่ยังมีปัญหาการลอยตัวที่ผิดปกติ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจอย่างใกล้ชิดต่อไป

ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : เฟซบุ๊ก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง