"ศักดินัย นุ่มหนู" เผยหากต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตหลังจากเป็น 1 ใน 44 สส.พรรคก้าวไกลที่ลงนามแก้ไขรธน.มาตรา 112 พร้อมผลักดันคนรุ่นใหม่ของพรรคลงแทน ระบุไม่ใช่นายชลธี นุ่มหนู
จากกรณีที่นายศักดินัย นุ่มหนู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตราด พรรคก้าวไกล หรือ พรรคประชาชนในปัจจุบันได้ร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 112 นั้น
นายศักดินัย กล่าวว่า ทางพรรคก้าวไกลโดยคณะผู้บริหารได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของการสู้คดีที่ปปช.ได้มีการดำเนินการเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ทำการ ตัดสินเพื่อตัดสินสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกลที่ร่วมงานแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งอาจจะต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตทั้งนี้ทางพรรคก้าวไกลได้เตรียมความพร้อมหากจะต้องถูกดำเนินการในเรื่องนี้
“ มีผู้ร้องกับปปช.เพื่อให้ดำเนินคดีครั้งนี้ให้เร็วขึ้นและมีการขานรับกันออกมาแต่ว่าผมพร้อมที่จะทำงานจนถึงวาระของการดำรงตำแหน่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเหมือนเช่นคุณพี่ทาลิ้มเจริญรัตน์ได้ทำหน้าที่จนถึงวินาทีสุดท้ายที่ทำหน้าที่ใน บทบาทของอดีตหัวหน้าพรรคในการนำเสนอปัญหาของพี่น้องประชาชนในสภาก็ถือว่าเป็นการทำหน้าที่ในวาระสุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง”
“ สำหรับตัวผมเองที่เป็นหนึ่งใน 44 คนที่ลงนามแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 ถามว่ามีความกังวลใจในเรื่องนี้หรือไม่ ในส่วนผมเองไม่ได้เข้าไปร่วมในกิจกรรมอย่างอื่นทำเพียงในกรณีลงลายมือชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 เท่านั้นหากมีการนำคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญที่พูดถึงการกระทำโดยชอบ ผ่านกลไกโดยชอบซึ่งขบวนการในรัฐสภาเป็นการดำเนินการโดยชอบ ตามกฏหมาย ผมก็คิดว่าผมก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ เพราะเราทำภายใต้กระบวนการนิติบัญญัติ และเป็นกลไกที่คนที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรสามารถที่จะกระทำได้”
สส.ตราด กล่าวอีกว่า หากต้องถูกคำพิพากษาให้สิ้นสุดการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจริง ก็ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งซ่อมขึ้นใหม่ เราก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมส่วนตัว ซึ่งตนเองก็ต้องมีการเตรียมในเรื่องการเลือกตั้งครั้งใหม่เช่นกัน แต่ระยะเวลาน่าจะใช้อีกระยะหนึ่ง ส่วนใครจะเป็นผู้สมัครแทนตนเองนั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพรรคประชาชนตราดที่จะมีการจัดตั้งขึ้นใหม่ อย่างไรก็ตามทั้งพรรคยังไม่มีการดำเนินการในเรื่องนี้ ส่วนที่จะผลักดันให้นายชลธี นุ่มหนู ที่เป็นน้องชายของตัวเอง และเป็นว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ. ตราดนั้น เป็นผู้สมัครแทนตนเองคงไม่ใช่ เพราะนายชลธี นุ่มหนู มาสมัครรับเลือกตั้งในสนามการเมืองระดับชาติ เนื่องจากชลธีต้องการที่จะทำงานการเมืองในระดับท้องถิ่นมากกว่า ขณะเดียวกันทางพรรคประชาชนตราดก็มีตัวบุคคลที่มีคุณภาพที่สามารถที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งแทนตนเองได้