วันที่ 12 ส.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เทพไท - คุยการเมือง ระบุว่า...

อย่า“ติเรือทั้งโกลน”

จ้องเล่นงานพรรคประชาชน จนเกิดกระแสสงสาร

เมื่อศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค จนเหลือส.ส. 143 คนและได้ย้ายไปสังกัดพรรคประชาชนทั้งหมด ทำให้กระแสของพรรคประชาชนเริ่มคึกคักมาทันที มีผู้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคจำนวน 30,000 กว่าคน และมียอดเงินบริจาคสูงถึง 20 กว่าล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความการมีส่วนร่วมของประชาชนทางการเมืองมากระดับหนึ่ง

ในขณะเดียวกันก็มีผู้เตรียมร้องยุบพรรคประชาชน และประกาศขัดขวาง ต่อต้านนโยบายแก้ไขมาตรา 112 พรรคประชาชน ที่ประกาศไม่ลดเพดานลง ซึ่งเรื่องนี้อยากให้ทุกฝ่ายได้ตั้งสติ ใจเย็นๆ อย่าให้สังคมมองว่าพรรคประชาชนถูกรังแกจนได้รับคะแนนสงสารมากขึ้น น่าจะเปิดโอกาสให้พรรคประชาชนได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองไปก่อนสักระยะหนึ่ง ดีกว่าตั้งหน้าตั้งตาขัดขวาง จองล้างจองผลาญกันตั้งแต่วันเริ่มต้นเลย เมื่อถึงวันนั้นถ้าหากพรรคประชาชนเคลื่อนไหวทางการเมือง มีประเด็นที่ขัดต่อกฎหมาย ก็สามารถยื่นตรวจสอบและยุบพรรคได้

แต่ตอนนี้เหมือนเป็นจุดเริ่มต้น ไม่ควรติเรือทั้งโกลน ควรเปิดโอกาสให้พรรคพลังประชาชนได้แสดงบทบาททางการเมืองไปก่อน ยังมีเวลาที่จะตรวจสอบก่อนถึงวันเลือกตั้งครั้งต่อไป และถ้าหากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในครั้งหน้า พรรคประชาชนสามารถครองใจคนได้ และได้คะแนนจำนวนส.ส.มากที่สุด ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน และเปิดโอกาสให้พรรคประชาชนจัดตั้งรัฐบาล ไม่ควรมีเกมการเมืองมาขัดขวาง หรือทำลายเจตนารมย์ของประชาชน ที่แสดงออกผ่านผลการเลือกตั้ง

ในฐานะที่เป็นนักการเมืองมาก่อน และปัจจุบันไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด ไม่ได้เชียร์หรือสนับสนุนพรรคประชาชนเลย แต่ขอแสดงความเห็นทางการเมืองในฐานะผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองคนหนึ่ง อยากให้พรรคประชาชนได้เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย อย่าเคลื่อนไหวแบบท้าทายผู้มีอำนาจ ซึ่งถ้าหากการเคลื่อนไหวใดๆที่เกิดขึ้นขัดต่อกฎหมาย และถึงขั้นต้องยุบพรรคอีก ก็จะเป็นคำทำลายคะแนนเสียงที่เลือกพรรคประชาชนเข้ามา เป็นการทำลายโอกาสของพรรค และพี่น้องประชาชนผู้สนับสนุนทั่วประเทศอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : เฟซบุ๊ก เทพไท - คุยการเมือง