การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน Amazing Thailand Travel Fair 2024 ระหว่างวันที่ 10 - 11 สิงหาคม 2567 ณ Taipei Main Station ไทเป ไต้หวัน โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ไทเป Department of Information and Tourism Taipei City Government National Chengchi University และทีมประเทศไทย รวมทั้งผู้ประกอบการท่องเที่ยวไต้หวัน Travel agent และสายการบิน ยกทัพสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวชูเสน่ห์ไทยพร้อมนำเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวราคาพิเศษ ตั๋วเครื่องบินราคาประหยัด รุกตลาดไต้หวัน เพื่อสร้างแรงจูงใจสู่การเดินทางมายังประเทศไทย

 

นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า การจัดงาน Amazing Thailand Travel Fair 2024 ณ ไทเป ไต้หวัน จัดขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ตอกย้ำแนวคิดสื่อสารทางการตลาด "Amazing Thailand: Your Stories Never End" เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวค้นหาประสบการณ์ใหม่และส่งต่อความประทับใจอย่างไม่รู้จบ ผ่านสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวชูเสน่ห์ไทย (Soft power) และแนวคิด ‘5 Must-Do in Thailand’ ให้ผู้ที่เข้าร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์จริงอย่างใกล้ชิดกับบรรยากาศและกิจกรรมที่สนุกสนานสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่จะสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม โดยคาดว่าจะมีผู้ร่วมงาน 10,000 คน สร้างการรับรู้ไม่น้อยกว่า 2 แสนคน

ทั้งการแสดง กิจกรรมการสาธิต ศิลปวัฒนธรรมไทย การออกร้านจำหน่ายอาหารไทย และแพ็กเกจท่องเที่ยวไทยในราคาพิเศษ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวไต้หวันมีความต้องการเดินทางมายังประเทศไทย ผนวกกับรัฐบาลไทยได้ดำเนินมาตรการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง (Ease of Traveling) อย่างต่อเนื่อง โดยได้เพิ่มไต้หวันอยู่ในรายชื่อประเทศ/ดินแดน 93 แห่งที่ได้รับการยกเว้นตรวจลงตรา จึงทำให้เป็นโอกาสอันดีในการเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากไต้หวัน ซึ่งททท. หวังว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะสามารถดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพในตลาดระยะใกล้ ยกระดับการท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand สร้างภาพลักษณ์เชิงบวกและความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวถึงความพร้อมของประเทศไทยในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย

สำหรับงาน Amazing Thailand Travel Fair 2024 ไทเป ไต้หวัน เปิดงานในวันที่ 10 สิงหาคม 2567 โดยภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมเทศกาลลอยกระทง เพื่อนำเสนอประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัส ภายในงานมีผู้ประกอบการ 30 บูธประกอบไปด้วยบริษัทนำเที่ยว นำเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวราคาพิเศษ ตั๋วเครื่องบินราคาประหยัด ร้านอาหารไทย สินค้าและผลิตภัณฑ์ไทยคุณภาพดีให้นักท่องเที่ยวได้จับจ่าย พร้อมตื่นตาตื่นใจกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ศิลปะแม่ไม้มวยไทย การแสดงเดี่ยวระนาดเอกร่วมสมัยจาก Fino the Ranad ยูทูปเบอร์ชื่อดังผู้นำเสนอดนตรีไทยผ่านระนาดเอกให้เป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ โชว์สุดพิเศษ Drag Show จาก Miss Natalia Pliacam Drag Queen ผู้ชนะจากรายการ Drag Race Thailand Season 1 ที่จะมานำเสนอวัฒนธรรมไทยผ่านการแสดงในเพลงต่างๆ พร้อมส่งมอบประสบการณ์แบบใหม่ผ่านกิจกรรมสาธิตที่นำมาจัดแสดงภายในงาน ได้แก่ การทำกระทงจากวัสดุที่ย่อยสลายได้ การเพ้นท์ร่ม สาธิตการทำชาชักแดนใต้ สาธิตทำอาหารอีสานโดยฝีมือเชฟไทย ผ่อนคลายกับการนวดไทยจาก Divana Spa พร้อมชอปปิงผลิตภัณฑ์สปาของไทย

อีกทั้งร่วมกระทบไหล่นักแสดงและศิลปิน Boy Love/Girl Love ชื่อดังจากไทย ได้แก่ มอส-แบงค์, นุ่น-แพรวา ค่าย  Star Hunter , แซน-ชิชา และ น้ำ จุฑามาศ จากค่าย IDX Entertainment  พร้อมทั้ง เจม-หลิวมินทิง นักแสดง BL ไทยและไต้หวันในผลงานซี่รี่ BL ล่าสุดเรื่อง “First Note of Love” จากค่าย GagaOOLala (ไต้หวัน) และ Star Hunter (ไทย) พร้อมกิจกรรรมสุดพิเศษภายในงานแต่งชุดไทยถ่ายรูป ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีจับของรางวัล Lucky Draw กว่า 600 รางวัล ลุ้นตั๋วเครื่องบินไปกลับไทเป - กรุงเทพฯ Voucher โรงแรมที่พัก และสินค้าเสน่ห์ไทยอีกมากมาย เช่น กางเกงช้าง เสื้อลายดอก ยาดมสมุนไพรไทย เป็นต้น

นอกจากนี้ ททท.ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (Sustainability) ผ่านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมภายในงาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภาชนะบรรจุอาหารและเครื่องดื่มซึ่งผลิตจากมันสำปะหลังที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมย่อยสลายได้ 100% และบริเวณการจัดงานได้จัดเตรียมถังขยะประเภทต่างๆ ไว้สำหรับให้ผู้ร่วมงานได้คัดแยกขยะเพื่อนำขยะแต่ละประเภทไปจัดการตามกระบวนการหรือรีไซเคิลต่อไป

สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวไต้หวันถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่เดือนมกราคม – 31 กรกฎาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวไต้หวันเดินทางเข้ามาประเทศไทยแล้วจำนวน 630,332 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 64 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2566 ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ ททท. คาดหวังว่าจะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพและความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว เพื่อให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางในการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวไต้หวันตลอดจนนำไปสู่เป้าหมายนักท่องเที่ยวไต้หวัน  1 ล้านคน ในปี 2567