หลังจากที่นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา หรือกำนันตุ้ย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี  ได้ลาออกก่อนครบวาระในวันที่ 11 ก.ค.67  เพราะเกรงว่าจะคิดปัญหาข้อห้ามการหาเสียงของ กกต. 180 วัน และทางกกต.จ.ราชบุรี  ได้จัดให้มีการรับสมัครเลือกตั้งในวันที่ 30 ก.ค.-3 ส.ค.67 และกำหนดเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.ย.67 ซึ่งหลังการปิดรับสมัครพบว่ามีผู้มาลงสมัคร 2 คน คือนายนายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ ได้เบอร์ 1 และนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา อดีตนายก อบจ.ราชบุรี ที่ขอกลับมาลงต่ออีกสมัยเพื่อสานต่อโครงการที่ยังค้างอยู่ให้สำเร็จ  ได้เบอร์ 2  แม้ว่าจะกระแสของพรรคก้าวไกลในช่วงยังไม่มีการยุบพรรคนั้นจะฟีเว่อร์  แต่กำนันตุ้ยก็ไม่หวั่นเดินหน้าขอคะแนนสงสารหวังให้ชาวบ้านได้เห็นใจและให้นั่งเก้าอี้นายกอบจ.ต่ออีกสมัย

ซึ่งกำนันตุ้ย หรือนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา ผู้สมัครเบอร์ 2 ก็บอกว่าในช่วง 3 ปีกว่าที่เป็นนายก อบจ. ก็ได้เดินเข้าหาประชาชน และได้นำปัญหาจากอปท.ทั้งจังหวัดมาปรึกษาหารือพร้อมทั้งทำงบประมาณทำโครงการของประชาชนในแต่ละพื้นที่แม้ว่าเราจะมีงบประมาณจำกัด แต่เรามีวิธีในการบริหารจัดการเพราะทางอบจ.มีเครื่องมือในการเข้าไปดำเนินการ  ซึ่งทำประชาชนได้รับความสะดวกที่สุด ทั้งเร่งด่วน และไม่เร่งด่วนซึ่งอาจจะยังไม่ครบทั้งหมดเพราะระยะแค่ 3 ปี เศษนั้นไม่สามารถที่จะทำได้ครบ จึงต้องขอโอกาสที่จะกลับเข้ามาสานต่อโครงการที่ยังไม่สำเร็จ  เพราะแค่สมัยแรกเท่านั้นซึ่งการบริหารจัดการนั้นต้องใช้เวลา ซึ่งนโยบายบางอย่างนั้นต้องมีข้อกฎหมายไปขับเคลื่อนด้วย  จึงใช้เวลาสักหน่อย  

ส่วนเรื่องของพรรคการเมืองนั้นเป็นเรื่องอีกระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นระดับชาติ แต่การเลือกตั้งนายกอบจ.นั้นเป็นระดับท้องถิ่น  ซึ่งจะต้องทำงานควบคู่กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  แต่ทั้งนี้เรื่องของงบประมาณก็ต้องอาศัยรัฐบาล ซึ่งกระแสของพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นนั้น  เชื่อว่าประชาชนชาวจ.ราชบุรีเข้าใจว่าเป็นกระแสของพรรคการเมือง แต่เรื่องของเขาคือท้องถิ่นที่จะต้องมาร่วมกันพัฒนาให้ชุมชนของเราเข้มแข็ง โดยขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งต้องขอโดย อบจ.และอปท. ส่วนตัวจึงมองว่าผลงานของคนที่ทำงานเท่านั้นจึงจะเป็นที่ประจักษ์ จึงอยากขอโอกาสประชาชนชาวจ.ราชบุรี ที่จะกลับเข้ามาทำงานที่ยังค้างอยู่ให้สำเร็จซึ่งจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องชาวจ.ราชบุรี  ซึ่งตนพร้อมกับทีมงานนั้นมีความพร้อม มีความรู้ความสามารถโดยเฉพาะผลงานที่ผ่านมานั้นเป็นประโยชน์กับชาวจ.ราชบุรีอย่างแท้จริง จึงอยากขอกลับมาเข้ามาทำงานอีก 1 สมัย