บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวโพดหวานแปรรูปและสินค้าเกษตรอื่นๆ ภายใต้ตราสินค้า “KC” ประกาศผลประกอบการครึ่งปี 2567 ปรับตัวดีต่อเนื่อง มีรายได้จากการขาย 1,592.29 ล้านบาท กำไรสุทธิโต 120.64 ล้านบาท สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจ ด้วยภาพรวมการเติบโตตามกลยุทธ์ที่วางไว้
นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SUN เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินการของ SUN ในปี 2567 เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน ผลประกอบการไตรมาส 2 ประจำปี 2567 มีรายได้จากการขาย 827.01 ล้านบาท กำไรสำหรับงวด 65.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 จากไตรมาสก่อน ในส่วนของผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2567 มีรายได้จากการขาย 1,592.29 ล้านบาท กำไรสำหรับ 120.64 ล้านบาท บริษัทมีการบริหารต้นทุนการผลิตได้ดีจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต ในด้านการบริหารความเสี่ยงวัตถุดิบข้าวโพดหวาน บริษัทมีส่งเสริมการปลูกและขยายพื้นที่ในหลายพื้นที่ และเลี่ยงปลูกพื้นที่บริเวณลุ่มแม่น้ำเพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วมในหน้าฝน สำหรับการเติบโตของรายได้จากการขายสินค้าในกลุ่มของสินค้าข้าวโพดหวาน บริษัทมีการขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศในเอเชีย ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน และยังรุกตลาดอเมริกาและยุโรปอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบาย Go West โดยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า SIAL Paris และ PLMA Chicago ในช่วงไตรมาส 4 เพื่อรองรับกับความท้าทายการแข่งขันที่สูงขึ้น ในส่วนของกลุ่มสินค้าพร้อมรับประทาน RTE มีการพัฒนากลยุทธ์ด้านสินค้าเพื่อเติบโจทย์ลูกค้า โดยในเดือนกรกฎาคมได้เปิดตัวสินค้าใหม่ ข้าวโพดหวานผสมถั่วแระ เพื่อเอาใจสายรักสุขภาพและขยายส่วนแบ่งการตลาดในประเทศ นอกจากนี้ได้นำร่องพัฒนาสินค้ามันหวานญี่ปุ่นที่มีอายุเก็บรักษา 1 ปี สำหรับตลาดส่งออก ซึ่งเริ่มจัดส่งสินค้าล็อตแรก จำนวน 100,000 ชิ้น เพื่อจำหน่ายใน Convenience Store ที่เป็นร้านค้าปลีกรายใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งมีสาขามากกว่า 3,000 แห่งในประเทศญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม บริษัทมุ่งยกระดับการดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์เติบโตอย่างยั่งยืน โดยปรับโมเดลการตลาด และ Focus กลุ่มลูกค้าต่างประเทศรายหลักที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น นอกจากนั้น ได้เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ด้วยการปรับปรุงและนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิต ลดต้นทุน และเดินหน้าก่อสร้างโครงการอาคารผลิตสินค้า RTE (Mini Factory 2) คาดว่าจะสร้างเสร็จและเริ่มดำเนินการได้ในต้นปีหน้า ซึ่งจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 200% และเพิ่มพื้นที่ในการวิจัยพัฒนาสินค้า ให้มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล สร้างสรรค์นวัตกรรมอาหารที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าตามเทรนด์อาหารอนาคต และสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในแบรนด์ KC อย่างต่อเนื่อง