วันที่ 9 ส.ค.67 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงแนวทางบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล กทม.ในปัจจุบันว่า มีแนวคิดปรับเปลี่ยน แก้ไขพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2554 ที่กำกับคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร (ก.ก) และอนุกรรมการวิสามัญ (อ.ก.ก.) ทั้ง 9 ชุด ที่ ก.ก.แต่งตั้งขึ้น โดยแก้ไขไปพร้อมกับพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 ซึ่งอยู่ระหว่างออกแบบและดำเนินการ จุดประสงค์เพื่อให้กระบวนการต่าง ๆ ในระบบราชการ กทม.มีความคล่องตัวรวดเร็วขึ้น

 

โดยเรื่องดังกล่าวได้มอบหมายให้ ก.ก.เป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปรับเปลี่ยน เนื่องจากพบว่า กทม.มีบุคลากรรวมกว่า 100,000 คน มีอัตราครองตำแหน่งกับกรอบตำแหน่งไม่สอดคล้องกันประมาณร้อยละ 7-8 จึงควรปรับให้มีความสมดุลเหมาะสมกับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลาการทั้งหมด โดยเฉพาะลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ในส่วนต่าง ๆ เช่น การสำรวจเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ว่ามีภาระงานเกินกรอบหน้าที่มากน้อยแค่ไหน อย่างไร  โดยเฉพาะการบริหารจัดการบุคลากร ภาระงาน ค่าตอบแทน ในสถานพยาบาลของกทม. ซึ่งอยู่ในระดับท้องถิ่น

 

ข้อสังเกตที่พบคือ ที่ผ่านมา ไม่มีผู้สมัครในระดับอาชีวศึกษาประสงค์เข้าสอบคัดเลือกหรือทำงานกับ กทม. เนื่องจาก ขอบเขตงานอาจไม่ชัดเจน และมีภาระหน้าที่มากเกินไป ส่วนใหญ่ผู้ที่เข้ามาทำงานใหม่มักเป็นคนรู้จักหรือมีญาติที่ทำงานใน กทม.อยู่แล้ว เหตุนี้ บุคลากรในองค์กรจึงมีลักษณะเป็นสังคมปิด จำเป็นต้องทำข้อตกลงความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น กระทั่งมอบทุนสร้างแรงจูงใจ เพื่อให้ได้เจ้าหน้าที่เข้ามาทำงานอย่างเปิดกว้าง เช่น ตำแหน่งช่างต่าง ๆ ควรมาจากสถานศึกษาที่เปิดกว้างหลากหลาย รวมถึงต้องทำให้ผู้สมัครมีความมั่นใจในเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Path) เพื่อแก้ปัญหาบุคลากรลาออก

 

นอกจากนี้ กทม.อยู่ระหว่างแต่งตั้งคณะกรรมการเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การทำงาน และระบบการพิจารณาลงนามในเอกสารมีประสิทธิภาพ รวดเร็วขึ้น ลดภาระหน้าที่และบุคลากรให้สอดคล้องกับเนื้องาน โดยการนำ Ai มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อแจกจ่ายจัดสรรงานและเอกสารไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ มีการรวบรวมข้อมูล จัดหมวดหมู่ สามารถติดตามผลดำเนินการได้เบ็ดเสร็จ คล้ายระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ ซึ่ง AI ดังกล่าว มีหน่วยงานนำไปใช้แล้ว สามารถลดบุคลากรอัตรา 2 ใน 3 เพื่อนำไปปฏิบัติหน้าที่ด้านอื่นที่จำเป็นกว่า ซึ่งเร็ว ๆ นี้ คาดว่าจะจัดตั้งคณะกรรมการเรียบร้อย และตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ ตามแนวทางของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

 

"วันนี้ปฏิเสธไม่ได้ ต้องเปลี่ยนแปลง เพราะโลกเปลี่ยนแปลง" นายต่อศักดิ์ กล่าว