ชาวจอมบึงวัย 87 ปี เผยประวัติพระพุทธปางลีลาเนื้อสัมฤทธิ์โบราณ สมัยสุโขทัย ที่ถูกเคลื่อนย้ายออกไปจากถ้ำจอมพล อ.จอมบึง เมื่อหลายสิบปีก่อน ไปประดิษฐานชั่วคราวที่วัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมือง เหตุสมัยนั้นเกรงพระถูกขโมย จึงอยากนำกลับมาเตรียมจัดสมโภช 130 ปี เสด็จพระประพาสต้น ร.5 ปี 2568
จากกรณีที่คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง (คสม.) จ.ราชบุรี ได้มีการประชุมคณะกรรมผู้ทรงคุณวุฒิฯ ครั้งที่ 7 ปี 2567 เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา มีวาระที่จะมีการจัดงานประจำปี ปีนเขาเขาถ้ำจอมพล คณะกรรมการฯ จึงได้ยิบยกเรื่องพระพุทธรูปโบราณปางลีลาเนื้อสัมฤทธิ์สมัยสุโขทัย ที่เคยประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำ จนมีประชาชนชาวอำเภอจอมบึงส่วนใหญ่พูดถึง และอยากอันเชิญกลับคืนสู่ถ้ำจอมพลดั่งเดิม เพื่อให้ประชาชนที่มาท่องเที่ยวได้สักการบูชา ภายหลังถูกเคลื่อนย้ายออกไปจากถ้ำ เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว โดยที่ประชุม คสม. คณะกรรมการบางท่านทราบถึงประวัติความเป็นมากของพระพุทธรูปดังกล่าว และหลายคนอยากให้นำกลับมาสู่ถ้ำจอมพลเช่นเดิมนั้น
จากการสอบถามประวัติความเป็นมาของพระองค์ดังกล่าว นายสุรินทร์ เหลือลมัย อายุ 87 ปี ข้าราชการบำนาญ นักภูมิปัญญาท้องถิ่น จ.ราชบุรี อดีตเลขาธิการสมาคมศิษย์เก่าวิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง อดีตเลขาธิการมูลนิธิประชาอุทิศ 200 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ อ.จอมบึง และอดีตผู้บริหารโรงเรียนคุรุราษฎร์รังสฤษฎ์ กล่าวถึงประวัติพระพุทธรูปโบราณปางลีลาเนื้อสัมฤทธิ์ ที่ได้ถูกเคลื่อนย้ายออกไปจากถ้ำจอมพล ไปประดิษฐานชั่วคราวอยู่ที่อุโบสถที่วัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมือง ว่า ถ้ำโบราณในสมัยก่อนจะมีการจินตนาการว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีฤาษีอาศัยอยู่ โดยเลียนแบบที่ถ้ำฤาษี เพราะในถ้ำจะมีฤาษีอยู่ เป็นพระเป็นขรัวที่มีอายุมาก ส่วนใหญ่ทุกถ้ำจะมีพระโดยมีคนไปบริจาค ถ้ำจอมพลก็เหมือนกันที่มีพระอยู่ หลักฐานที่จะหาได้นั้นอยู่ที่วัดมหาธาตุ เป็นพระปางลีลาเนื้อสัมฤทธิ์ มีรูปถ่ายไว้แต่ตอนนี้ไม่รู้ไปเก็บไว้ที่ไหนแล้ว มีคนศรัทธานำไปให้ในถ้ำ ตอนช่วงนั้นเป็นช่วงที่คนขโมยพระเยอะ พระนั้นถ้าไม่มีคนดูแลก็อาจถูกขโมยไป ดังนั้นถ้ำจอมพลก็เหมือนกัน
หลวงพ่อวัดมหาธาตุเจ้าคณะจังหวัด ในสมัยนั้น เห็นว่าถ้ำจอมพลมีชื่อเสียงมานานแล้ว โดยจอมบึงจะมีทุ่งใหญ่ก็มีคนลาวเวียงจันทร์อยู่วัดฝั่งทหารแถววัดพญาไม้ เกี่ยวกับเรื่องประวัติศาสตร์ไทยรบพม่าแล้วเคลื่อนคนมาอยู่ภาคกลาง ที่วัดพญาไม้นี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนลาว พอกวาดต้อนก็มาไว้ที่ภาคกลาง ดังนั้นวัดพญาไม้จึงเป็นที่อยู่ของลาวเวียงจันทร์ส่วนใหญ่ ตามประวัติศาสตร์ที่นั่นคับแคบ มีครอบครัวขยายข้ามฝั่งมาจากวัดพญาไม้มาอยู่เขาแร้ง และมาอยู่จอมบึงแถวนาสมอ ปากช่อง เหตุที่มาอยู่จอมบึงนั้นเห็นว่าที่นี่ทำเลดี ทำนา จับปลาได้ พระที่อยู่แถววัดพญาไม้ให้ลูกหลานไปอยู่ ทำไร่ทำนา มีอะไรก็อพยพมาอยู่ที่จอมบึงนี้ ตอนนี้คงเหลือแต่ลูกหลานแถวบ้านเกาะ นามสกุลเกิดผล มาอยู่ทำนาปลูกข้าวได้ ก็อพยพมาอยู่จอมบึงเป็นพวกแรก ต่อมามีพรรคพวกก็ตามมา จากที่ไม่มีอะไรเลยก็เป็นชุมชนเล็ก ๆ ขึ้นมา ทำนา จับหาของป่าเรื่อยมา
จอมบึงส่วนใหญ่จะเป็นพวกผู้ดี พวกมีอันจะกิน พอเห็นว่ามีถ้ำก็พยายามสร้างพระ เหมือนถ้ำฤาษี แต่โบราณก็ไปสลักพระ ไปสร้างพระ สร้างฤาษีและขยายมา ที่ไหนมีถ้ำก็พยายามสร้างอะไรที่เป็นวัด ดังนั้นที่ถ้ำจอมพลมีชื่อเสียงเมื่อก่อนที่ไหนมีถ้ำคนก็ไปเที่ยว เพราะไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน จากเจ้าใหญ่นายโตก่อน มาราชบุรีไปเที่ยวถ้ำ ต่อมาก็มาเที่ยวที่ถ้ำจอมพล มีคนทักว่าถ้ำสวยดี เลยเอาพระมาไว้ด้วย เป็นพระยืนปางลีลา ปัจจุบันองค์พระถูกเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่วัดมหาธาตุ เคยถ่ายรูปไว้เป็นพระยืน พอถึงปีคนจะเข้าไปทำบุญพระในถ้ำด้วย พระที่มาอยู่ในถ้ำสวยมาก ช่วงนั้นมีการขโมยพระเยอะ โดยจะเอาพระอู่ทองเป็นหลัก ก็เริ่มมีพระโบราณที่ไหนต้องเก็บหมด ถ้าไว้แบบนี้หายหมด เพราะจะเอาไปขายต่อ อดีตเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุเลยย้ายพระพุทธรูปโบราณขึ้นรถบรรทุกไปไว้ที่วัดมหาธาตุ ชาวบ้านก็ไม่รู้จะว่ายังไง พอมาอยู่ที่นี่ 40 - 50 ปี ตอนนั้น กรรมการวัดจอมบึง ทางอำเภอ และมหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง รวมทั้งชาวบ้านคิดจะเอาพระกลับมาจัดงานที่ถ้ำ เพราะเป็นศรีแก่บ้านเมือง ทำไปทำมาก็ไม่ได้ เพราะการจะเอากลับต้องผ่านเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล ไม่มีใครกล้า เรื่องจึงเงียบไป เจ้าหน้าที่ศิลปากรสมัยนั้นมองว่า เอาไปไว้ที่วัดมหาธาตุก่อน ไว้ให้มีประตูถ้ำเรียบร้อยดี แล้วค่อยเอากลับมา ซึ่งเป็นคำพูดลอย ๆ ไม่มีหลักฐาน สมัยท่านเจ้าคุณ ท่านก็ว่า เออ เอาไปไว้ที่นั่นก็ดีแล้ว
ถ้าเอามาไว้ที่จอมบึง น่าจะทำมานานแล้ว เพราะตอนนั้นเจ้าคณะอำเภอ กรรมการวัดจัดงานทุกปีกับมหาวิทยาลัยฯ จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีใครกล้าพูด จริง ๆน่าจะเอากลับมา แต่นี่มันไม่มีหลักฐานเก็บไว้ เพราะเจ้าหน้าที่เอารถขนไปเพราะเขาบอกว่าเอาไว้ที่วัดก่อนเดี๋ยวจะหาย เพราะพระหายเยอะ มีอยู่ครั้งหนึ่งคิดอยู่แล้วแต่ก็ไม่กล้าอีก เพราะมีงานถ้ำน่าจะมีพระที่นี่เพราะเป็นศรีแก่บ้านเมือง และก็ไม่มีใครกล้าทำ คิดว่าน่าจะเอากลับมาเพราะพระที่วัดมหาธาตุก็มาเยอะแยะแล้ว ตามประวัติเคยอยู่ที่ไหนมาก่อน ไม่มีหลักฐาน ถ้าอำเภอคิดว่าสำคัญ จังหวัดเขาเข้าใจไปคุยกับเจ้าคณะจังหวัดให้เข้าใจ เอากลับมาประดิษฐานที่เดิมของถ้ำจอมพล ส่วนคนแรกที่นำพระเข้ามาในถ้ำเป็นชาวบ้าน เมื่อก่อนมีคนมาเที่ยวถ้ำกันบ่อย คนมีเงินหน่อยก็จะนำพระมาไว้ คนจะได้ไปบูชากราบไว้ อย่างถ้ำจอมพลมีรัชกาลที่ 5 ก็ถ่ายรูปเก็บไว้ หลวงพ่อคูณ อดีตเจ้าอาวาสวัดจอมบึง ก็เลยสร้างพระนอนไว้ในถ้ำจอมพล ส่วนใหญ่ในถ้ำทุกถ้ำจะเป็นพระนอนไว้
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ได้มีการขอคืนพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว มาหลายครั้งแล้ว โดยมีภาพและหนังสือยืนยัน แต่ก็ไม่เคยเป็นผล เพราะมีคำอ้างว่าไม่ปลอดภัย
ทั้งนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง มีแนวคิดเห็นว่า หากประชาชนชาวอำเภอจอมบึงต้องการ จะต้องพัฒนาปากถ้ำให้มีประตูที่ปลอดภัย และจะทำกระจกนิรภัยคลอบพระ ป้องกันการโจรกรรม และต้องดูแลเป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ต้องประสานพูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และประสานกับทางวัดมหาธาตุ ว่าจะยินยอมนำพระกลับคืนสู่ถ้ำจอมพลได้หรือไม่