"นายกฯ" รับ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" แทรกซึมในไทย สั่ง "บิ๊กต่าย-ดีอี" ปราบปรามเด็ดขาดลุยตัดสายสัญญาณเชียงแสนต่อเนื่อง ด้าน"ดีอี"เตือนข่าวปลอม! เงินดิจิทัลวอลเล็ต ใช้ซื้อสินค้าจากธุรกิจรายใหญ่เท่านั้น ยืนยันใช้กับร้านค้าขนาดเล็ก-ไม่รวมห้างสรรพสินค้า ขอประชาชนอย่าเชื่อ

ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.67 เวลา 08.40 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ย้ายฐานมาที่ประเทศไทย ว่า เรื่องนี้มีการแทรกซึมอยู่แล้ว เราได้มีการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) มาพบตน ก็ได้กำชับให้ลงพื้นที่อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ด้วย เพื่อดูพื้นที่ตัดสายสัญญาณต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนจะลงพื้นที่และทำงานอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่าส่วนใหญ่จะอยู่ตามตะเข็บชายแดน แต่ในประเทศก็ยังมีอยู่ ซึ่งเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนยังได้เจอ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ได้สั่งการเรื่องนี้ไปด้วย          เมื่อถามว่า ช่วงหลังยังมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรฯ หานายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาไม่เจอแล้ว

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอี โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมแห่งประเทศไทย (AFNC) และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้ตรวจสอบและพบข่าวปลอมเกี่ยวกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ระบุว่า ใช้ซื้อสินค้าจากธุรกิจรายใหญ่เท่านั้น

 กระทรวงดีอียืนยันว่าเป็นข้อมูลเท็จ การใช้จ่ายภายใต้โครงการนี้จะต้องใช้กับร้านค้าขนาดเล็กและไม่รวมถึงห้างสรรพสินค้าใหญ่ การชำระเงินต้องเป็นแบบพบหน้า (face-to-face) เท่านั้น และจะมีการตรวจสอบการใช้จ่าย ดังนี้ 1.ที่อยู่ของร้านค้าเป็นไปตามที่ลงทะเบียนไว้กับโครงการฯ 2.ที่อยู่ของประชาชนที่ใช้สิทธิตามทะเบียนบ้านในขณะที่ลงทะเบียนโครงการฯ และ 3.ขณะที่ใช้จ่ายกับร้านค้า ต้องอยู่ในเขตอำเภอเดียวกัน การชำระเงินจึงจะสมบูรณ์

ส่วนเงื่อนไขของสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องเป็นไปตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ได้แก่ 1.สินค้าทุกประเภทเข้าร่วมโครงการได้ ยกเว้นสินค้า Negative List ประกอบด้วย สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์จากกัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ เครื่องมือสื่อสาร โดยการปรับปรุงสินค้า Negative List ให้เป็นไปตามที่กระทรวงพาณิชย์ กำหนด และ 2.การใช้จ่ายตามโครงการฯ จะไม่รวมถึงธุรกิจบริการ อาทิ โรงภาพยนตร์ บริการท่องเที่ยว นำเที่ยว ค่าที่พักโรงแรม เสริมสวย ค่าขนส่งสินค้า

สำหรับวิธีการใช้จ่ายเงินสามารถใช้จ่ายได้ ดังนี้ รอบที่ 1 เป็นการใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้าขนาดเล็กจนถึงร้านค้าสะดวกซื้อขนาดเล็ก           1.ประชาชนต้องชำระค่าสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า ที่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นร้านค้าขนาดเล็ก จนถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด โดยไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น

2.ต้องมีการซื้อ-ขายสินค้ากันจริง 3.เป็นการใช้จ่ายเชิงพื้นที่ในระดับอำเภอ โดยประชาชนต้องมีที่อยู่ในทะเบียนบ้านในอำเภอเดียวกันกับสถานประกอบการของผู้ประกอบการร้านค้าขนาดเล็ก 4.การซื้อ-ขายสินค้า ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องมีการทำธุรกรรมซื้อขายและสแกน QR Code เพื่อชำระค่าสินค้ากันแบบพบหน้า และไม่มีกระบวนการใดๆ ในการซื้อขายที่ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีการใด และไม่ให้ทำซ้ำ ส่งต่อหรือวิธีการอื่นใดกับ QR Code ชำระค่าสินค้า เพื่อหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมแบบพบหน้าดังกล่าว

รอบที่ 2 เป็นต้นไป เป็นการใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า 1.ผู้ประกอบการร้านค้าต้องชำระค่าสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าอีกแห่งหนึ่ง 2.ต้องมีการซื้อ-ขายสินค้ากันจริง

"กระทรวงดีอีเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลปลอมเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งมีเจตนาบิดเบือนและสร้างความกังวล โครงการนี้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ มุ่งหวังช่วยลดค่าครองชีพและสนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็กทั่วทุกภูมิภาค ให้ได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน" นายประเสริฐ กล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงดีอีแจ้งประชาชนติดตามข้อมูลการใช้จ่ายเงินดิจิทัลและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจากสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้ที่ www.moc.go.th หรือโทร. Call center 1203 (02-507-7000, 02-507-8000) โดยการลงทะเบียนร้านค้าเริ่ม 1 ตุลาคม 2567 สำหรับข้อมูลการลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ติดตามได้ที่ www.digitalwallet.go.th หรือ www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1111 ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามข้อมูลข่าวสารโครงการ "ดิจิทัลวอลเล็ต" โทรสายด่วน Digital Wallet 1111 (24 ชม.)