ความเคลื่อนไหว ปมโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ของอบจ.นครพนม หลังมีคนออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ หลังพบข้อพิรุธ และได้มีการร้องไปยัง ปปช.สตง.ตรวจสอบ ความคุ้มค่า ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางนายกอบจ.นครพนม ไม่ได้มีการชี้แจงข้องสงสัยดังกล่าว
แต่ล่าสุดพบว่า เคลื่อนไหวทางเพจส่วนตัว แล้ว พร้อมไลฟ์สด ลงพื้นที่ นำเจ้าหน้าที่ อบจ.เยี่ยมชาวบ้าน ถามความพอใจโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน เล่าละเอียดยิบ ที่มาโครงการ ยืนยันเป็นความต้องการของประชาชนในพื้นที่ แต่ไม่แจงปริมาณงาน ความคุ้มค่า ในการใช้งบประมาณ รวมถึงปมผิดหลักทฤษฎี ธนาคารน้ำ ด้าน แกนนำชาวบ้าน รอผลตรวจสอบข้อกล่าวหา จาก ป.ป.ช. 30 วัน ชัดเจนขึ้น
โดยประเด็นโครงการธนาคาน้ำใต้ดินของอบจ.นครพนมนั้น ได้รับความสนใจขึ้น เนื่องจากมีนักเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมถึง ตัวแทนชาวบ้าน มีการร้องเรียน ให้ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ รวมถึงการดำเนินโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ของ อบจ.นครพนม เนื่องจากในช่วง ตั้งแต่ปี 2565 -2567 มีการจัดสรรงบประมาณ ดำเนินโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน มากกว่า 800 โครงการ เป็นวงเงินงบประมาณกว่า 430 ล้านบาท เชื่อว่า เป็นจังหวัดที่มีการดำเนินโครงการธนาคารน้ำใต้ดินมากสุดของอีสาน มีทั้งแล้วเสร็จ รวมถึงอยู่ระหว่างรอดำเนินโครงการ ทั้งนี้หลังมีข้อร้องเรียน ทางด้านสำนักตรวจเงินแผ่นดินนครพนม ได้ส่งเรื่องไปที่ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ภูมิภาค ที่ 5 จ.อุบลราชธานี เนื่องจากเป็นวงเงินงบประมาณมากกว่า 3 ล้านบาท เกินอำนาจหน้าที่ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินระดับจังหวัด อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อร้องเรียน และตรวจสอบความคุ้มค่า เป็นหลัก นอกจากนี้ ทางด้าน ป.ป.ช.นครพนม ได้มีการรับเรื่องข้อกล่าวหา พร้อมตรวจสอบข้อกล่าวหาตามขั้นตอน มีระยะเวลา 30 วัน หากถูกต้องหลักฐานชัดเจน จะมีการสอบปมทุจริต ต่อเนื่อง
สำหรับประเด็นข้อร้องเรียนที่สำคัญ ทางตัวแทนชาวบ้าน ระบุว่า จากการตรวจสอบลงพื้นที่ พบข้อพิรุธหลายจุด และตั้งข้อสังเกต เพื่อเป็นข้อมูลให้หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส หลังพบว่า ส่วนใหญ่มีการนำโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ไปดำเนินการในพื้นที่ ส่วนบุคคล ที่มีการอุทิศให้ อบจ.นครพนม แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่า มีความคุ้มค่า และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่ เนื่องจากโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน เป็นการทำตามหลักทฤษฎีเติมน้ำลงดินเป็นหลัก ต้องใช้ระยะเวลาประเมินผลจากปัจจัยหลายด้าน แต่หากดำเนินการไม่ตรงตามหลักทฤษฎี หรือไม่มีการสำรวจพื้นที่ ความเหมาะสม จะไม่เกิดความคุ้มค่าแน่นอน อีกทั้งยังมีช่องว่างเชื่อว่า เอื้อประโยชน์ต่อนายทุน ด้วยการจัดซื้อจัดจ้างแบบพิเศษ ตกลงราคา โครงการละไม่เกิน 5 แสนบาท จึงต้องการให้มีการตรวจสอบ ที่มาบริษัทผู้รับจ้าง เพราะมีข้อมูลผู้รับจ้างบางราย มีการเปิดขึ้นมาเพื่อรองรับโครงการดังกล่าวโดยเฉพาะ อีกทั้งมีบริษัทไม่กี่ราย แต่รับดำเนินการหลายโครงการ ในลักษณะของนอมินี ไปจนถึงหลายจุดป้ายโครงการ ไม่ตรงกับจุดก่อสร้าง และยังไม่มีการระบุถึงปริมาณงาน แต่มีการตรวจรับเบิกจ่าย นอกจากนี้ผู้นำชุมชนหมู่บ้าน บางพื้นที่ ยังยืนยันว่า ไม่มีการลงประชามติ แต่มาทราบหลังโครงการแล้วเสร็จ
ซึ่งต่อมาสำนักตรวจเงินแผ่นดิน จ.นคพรนม ได้รับเรื่องร้องเรียน พร้อมประสานเสนอเรื่องไปยัง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 5 จ.อุบลราชธานี ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มาของโครงการ รวมถึงความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณ เพื่อดำเนินการตรามกฎหมายต่อไป เนื่องจากเป็นการใช้งบประมาณ เกิน 3 ล้านบาท ถือว่า เกินกำนาจหน้าที่ สำนักตรวจเงินแผ่นดิน จ.นครพนม ต้องส่งเรื่องต่อไปยัง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาค ที่ 5 จ.อุบลราชธานี ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เพื่อจะดำเนินการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบได้พบข้อสงสัยหลายประการเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว เช่น การจัดสรรงบประมาณ ส่วนใหญ่ จะใช้งบอยู่ที่ประมาณ 4.9 แสนบาท แต่ไม่มีการระบุปริมาณ คิวดิน ชัดเจน รวมถึงงานขุดบ่อธนาคารใต้ดินหลายจุด มีป้ายโครงการไม่ตรงกับพื้นที่ จริง เช่นเดียวกับโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ในพื้นที่ ต.โพนทอง อ.บ้านแพง จ.นคพรนม แต่ป้ายโครงการระบุ ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม โดยถือว่าไม่ตรงกับข้อเท็จจริง นอกจากนี้ยังพบว่า บริษัทผู้รับจ้าง ส่วนใหญ่ จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นมา ไม่กี่เดือน ก่อนอนุมัติโครงการ รวมถึงเป็นบริษัทผู้รับจ้าง รายเดียวกัน แต่รับงานหลายโครงการ ถือว่า ส่อทุจริต มีช่องว่างเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ที่เป็นกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มผู้บริหาร ทั้งนี้ ถือเป็นประเด็นสำคัญที่มีตัวแทนชาวบ้านส่งหลักฐานร้องเรียนกับ ทาง ปปช.นครพนม สอบข้อเท็จจริง ป้องกันการทุจริต แสวงประโยชน์จากโครงการ
อย่างไรก็ตามถือเป็นโครงการโครงการธนาคารน้ำใต้ดินถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ของ อบจ.นครพนม ในรอบ 4 ปี หากผลการตรวจสอบของหน่วยงานเกี่ยวข้อง มีความคุ้มค่ากับงบประมาณ และเกิดประโยชน์กับประชาชน ถือเป็นความโชคดีของเกษตรกร ชาว จ.นครพนม แต่หากพบว่ามีปัญหาการทุจริต หรือแสวงผลประโยชน์ จะต้องกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริหารแน่นอน
ซึ่งล่าสุด นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือนายกขวัญ นายก อบจ.นครพนม มีการเคลื่อนไหวทางเพจ ขวัญ ศุภพานี โพธิ์สุ เป็นการไลฟ์สดของ นายก อบจ.นครพนม ลงพื้นที่ กับเจ้าหน้าที่ส่วนงานเกี่ยวข้อง ภายใน อบจ.นครพนม เพื่อลงพื้นที่ พบปะชาวบ้าน ที่ได้รับโครงการธนาคารน้ำ เพื่อยืนยันว่า ได้ประโยชน์ อีกทั้งมีการระบุถึงที่มาโครงการ ที่ผ่านคณะกรรมการพิจารณาระดับจังหวัด ในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จากสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สนทช. และมีงบประมาณ ของ อบจ.นครพนม ด้วย พร้อมยืนยันว่า มีการสำรวจความคิดเห็น และผ่านกระบวนการ ตามระเบียบทางราชการทุกขั้นตอน ที่เกิดจากความต้องการของประชาชน