วันนี้ (8 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นาย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ "เต้ พระราม 7 อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ-อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อให้เร่งตรวจสอบดำเนินคดีกับ นายชัชธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล พร้อมพวก ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีผลผูกพันธ์ทุกองค์กร เมื่อ 7 ส.ค.67 ให้ยุบพรรคก้าวไกล พร้อมตัดสิทธิ์ทางการเมืองกับกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ปี 64-67 จำนวน 10 ปี ในการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ม.92 (1) (2) ซึ่งอาจจะมีความผิดตาม ป.อาญา ม.113 (1) กรณี ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ซึ่งผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือไม่
โดยนายมงคลกิตติ์ ระบุว่าจากกรณีที่ศาลได้นั้นมีคำวินิจฉัยเด็ดขาดไปว่าทางก้าวไกลถูกตัดสิทธิ์ยุบพรรคและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคทั้งหมด 11 คน โดยทางกกต. ได้ยื่นให้ศาลรับมนูญวินิจฉัยประเด็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองปี 2560 มาตรา 92 (1),(2) ซึ่งศาลธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเบ็ดเสร็จเด็ดขาดด้วยมติ 9:0 ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข รวมถึงเป็นปฏิบัติต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข มีมติ8:1 การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่ค่อนข้างรุนแรงตามคำวินิจฉัยของศาล และคำตัดสินของศาลซึ่งมีผลผูกพันทุกองค์กร วันนี้ที่ตนมายื่นหนังสือดำเนินคดีเพื่อให้ทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ. ตร ตรวจสอบว่าการกระทำของอดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญาปี 2499 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 113 วรรคหนึ่งหรือไม่
ซึ่งต้องให้ทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ตั้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพนักงานตรวจสอบว่ามีการกระทำความผิดจริง ก็จะเป็นกระบวนการกระบวนการของพนักงานสอบสวนที่จะสั่งฟ้องในกรณีดังกล่าวและส่งให้กับอัยการ หลังจากนั้นอัยการก็ส่งสู่ศาลชั้นต้นอุทธรณ์ฎีกา ส่วนถ้าถามว่าตนหิวแสงหรือไม่นั้น ตนย้ำว่าตนไม่ได้หิวแสงตนเป็นคนทำเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น และมีการต่อต้านการหาเสียงในมาตรา 112 แต่เดิมอยู่แล้ว และไม่ได้เหยียบย่ำซ้ำเติม ตนเข้าใจว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกลทำไป เพราะอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการ หรืออาจจะมีผู้บงการอยู่เบื้องหลังเลยทำให้เกิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้น
ทั้งนี้ ตนอยากฝากไปถึงพรรคก้าวไกล ว่าอยากจะให้พรรคก้าวไกลที่จะไปสร้างพรรคใหม่ทำนโยบาย 300 ข้อเหมือนเดิม แต่ให้ยกเว้นเรื่องมาตรา 112 และการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ต้องไปแตะต้อง ให้แตะต้องในเรื่องของการแก้ไขปัญหาประชาชนเหมือนพรรคการเมืองทั่วไปที่ตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ตรงจุดนี้ก็จะทำให้กรรมการบริหารพรรครวมถึงสส.ของพรรคปลอดภัยมากขึ้น