วันที่ 7 ส.ค.67 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม,พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม, พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม, พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุขกัลยา รอง ผบก.ปทส. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย, พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์, พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.สวรรยา เอียดตรง สว.กก.6 บก.ป., พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ บุญทอง พร้อมด้วยเจ้าพนักงานตำรวจ ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทล., บก.ปทส. และ บก.รน.
ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา
1.นายสมเกียรติฯ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3473/2567 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ในข้อหา “เป็นผู้ใช้ จ้างวาน ให้ฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”
2.นายพศินฯ หรือนายกยักษ์ อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3476/2567 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัวหรือโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์”
3.นายทวีฯ อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3475/2567 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 โดยกล่าวหาว่า “สนับสนุนฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”
4.นายรีดฯ อายุ 64 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับอาญา ที่ 3474/2567 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวหรือโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์”
ตรวจยึดของกลาง
1.รถยนต์ จำนวน 3 คัน
2.โทรศัพท์ จำนวน 10 เครื่อง
3.เครื่องกระสุนปืน จำนวน 91 นัด
4.สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 3 เล่ม
สถานที่ตรวจค้นจับกุม 14 จุด ในพื้นที่ จ.พัทลุง และ จ.สตูล
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2566 เวลาประมาณ 19:00 น. ได้มีกลุ่มคนร้ายร่วมกัน ก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนสงครามอย่างน้อย 3 กระบอก ระดมยิงนายวิโรจน์ฯ ที่ขับขี่รถแทรกเตอร์ออกมาจากแปลงไม้บนเขา ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่บริเวณถนนภายในสวนยางพารา บ้านปาล์ม 4 ม.3 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล ต่อมา มารดาผู้ตายเห็นว่าคดีดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงมาร้องเรียนต่อตำรวจกองปราบ ให้ช่วยดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากกลุ่มคนร้ายมีพฤติการณ์ที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และยังใช้อาวุธปืนสงครามมากถึง 3 กระบอก เพียงเพื่อมาลงมือยิงผู้ตาย จึงเชื่อว่ามีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังกลุ่มมือปืนกลุ่มนี้ ซึ่งจากการลงพื้นที่ของ กก.6 บก.ป. ทำการสืบสวนทราบว่า นายวิโรจน์ฯ (ผู้ตาย) มีอาชีพรับซื้อไม้ยางพาราและตัดโค่นไม้ยืนต้นในพื้นที่ อ.มะนัง จ.สตูล โดยเมื่อช่วงประมาณเดือน ต.ค. 2566 ผู้ตายมีประเด็นปัญหาขัดแย้งเรื่องงานตัดไม้กับนายสมเกียรติฯ หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งได้มีปากเสียงทะเลาะกับผู้ตายถึงขั้นขู่จะฆ่ากัน จนเป็นเหตุให้นายสมเกียรติฯ ไปว่าจ้างกลุ่มมือปืนในพื้นที่ จ.พัทลุง มาก่อเหตุยิงผู้ตาย และจากการสืบสวนยังทราบว่า มือปืนที่มาร่วมกันก่อเหตุยิงผู้ตาย ได้แก่ นายพศินฯ กับพวก จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งร่วมกันลงมือก่อเหตุคดีดังกล่าว
ทั้งนี้ นายพศินฯ เป็นอดีตนายกเทศมนตรีแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.พัทลุง ซึ่งมีประวัติต้องโทษคดีฆ่าและครอบครองอาวุธปืนมาก่อน และยังมีข้อมูลยืนยันว่า ซุ้มมือปืนของนายพศินฯ มีความสัมพันธ์กับกลุ่มของนายไพฑูรย์ฯ ซึ่งได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. จับกุมตัวมาดำเนินคดีไปเมื่อช่วงเดือน พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา โดยเปิดเป็นปฏิบัติการ TAKE DOWN MAFIA Ep.1 ปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ 11 จุด ในพื้นที่ จ.พัทลุง และ จ.สงขลา สามารถติดตามจับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 9 ราย ประกอบไปด้วยผู้ใช้จ้างวาน, ผู้จัดหามือปืน และกลุ่มมือปืนที่ร่วมกันลงมือก่อเหตุ และจากการสืบสวน ยังทราบอีกว่านายรีดฯ หนึ่งในกลุ่มมือปืน หลังจากก่อเหตุยิงนายวิโรจน์ฯ ผู้ตายในคดีนี้แล้ว เมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค. 2566 ก็ได้ร่วมกันกับพวกไปก่อเหตุยิงนายธวัฒน์ฯ (สงวนนามสกุล) ในพื้นที่ จ.ชุมพร เสียชีวิตอีกราย
จากตรวจสอบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ทั้งในคดีนายประศาลฯ, คดีนายธวัฒน์ฯ และคดีนายวิโรจน์ฯ ต่างก็เป็นอาวุธปืนสงครามชนิดเดียวกันที่กลุ่มคนร้ายใช้ ก็คือ อาวุธปืนอาก้า ร่วมกับอาวุธปืน M16 ซึ่งบ่งบอกได้ว่า ซุ้มมือปืนที่ก่อเหตุทั้งสามคดีนี้ มีความเชื่อมโยงกัน และก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง จะมีการรับงานทั่วไป ไม่จำกัดพื้นที่ ตามแต่จะมีผู้ว่าจ้าง มีความชำนาญในการใช้อาวุธสงครามเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการรับงานจำนวนมาก โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง
จึงเป็นที่มาของการเปิดปฏิบัติการ TAKE DOWN MAFIA Ep.2 ในวันที่ 6 ส.ค. 2567 โดยเจ้าพนักงานตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทล., บก.ปทส. และ บก.รน. ปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ 14 จุด ในพื้นที่ จ.พัทลุง และ จ.สตูล เพื่อสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มมือปืนที่ร่วมกันก่อเหตุยิงนายวิโรจน์ฯ ตามที่ศาลได้อนุมัติหมายจับไว้ ร่วมทั้งตรวจค้นกลุ่มบุคคลในเครือข่ายซุ้มมือปืนนี้ ซึ่งผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาตามหมายจับได้ จำนวน 4 ราย คือ 1.นายสมเกียรติฯ อายุ 49 ปี
2.นายพศินฯ หรือนายกยักษ์ อายุ 63 ปี, 3.นายทวีฯ อายุ 51 ปี และ 4.นายรีดฯ อายุ 64 ปี ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน กก. 6 บก.ป. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้น นายสมเกียรติฯ นายพศินฯ และนายทวีฯ ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนนายรีดฯ ถูกจำคุกในคดีฆ่าอยู่ในเรือนจำ จ.ชุมพร จะได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.สวรรยา เอียดตรง สว.กก.6 บก.ป. โทร.085-5364636