วันที่ 7 ส.ค.2567 เวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯเป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือว่า ปัญหาด้านการจัดการน้ำ ทราบดีว่ารัฐบาลได้เริ่มต้นไปบ้างแล้ว แต่คำพูดที่ว่าหน้าแล้งขนน้ำไปหาคน หน้าฝนขนคนหนีน้ำก็ยังอยู่ในใจพี่น้องประชาชนอยู่เสมอ
ซึ่งเรื่องเร่งด่วนแบ่งเป็น 3 เรื่องคือ 1.ความผันผวนของสภาพภูมิอากาศจากต้นปี 2567 ที่ประเทศไทยประสบการณ์ เอลนินโญ ที่ทำให้เกิดภัยแล้ง ภัยร้อน จนผลผลิต การเกษตรหลายประเภทได้รับผลกระทบไม่ว่าจะเป็นผลไม้หรือไม้ดอกที่ลดลงไปถึง 9% ธัญพืช หรือพืชอาหารลดไปถึง 12% แต่เมื่อเข้าไตรมาสที่3 เริ่มเห็นปรากฏการณ์ลานีญาที่มีปริมาณฝนตกชุกมากในหลายพื้นที่ทั้งหมด 37 จังหวัด และหลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมแทบจะทันทีภายหลังจากฝนตกไปแล้วในเวลา 24-36 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นการเฝ้าระวังการเตือนภัยจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
นายพิธา กล่าวต่อว่า 2.การเยียวยาภัยน้ำท่วม โดยมีข้อเสนอแนะการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที เพราะเมื่อประชาชนได้รับผลกระทบต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้ถูกวางแผนมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นค่าขนส่ง ค่าเช่าบ้าน ค่าซ่อมแซม หรือซื้อข้าวของเครื่องใช้และเครื่องมือทำมาหากินใหม่นับเป็นการใช้เงินอย่างฉุกเฉิน ซึ่งอุบัติเหตุทางธรรมชาติที่มีครั้งหนึ่งต่อประชาชนอาจนำไปสู่อุบัติเหตุทางการเงินระยะยาวที่เยียวยาได้ยาก และ3.การจัดการปัญหาความเหลื่อมล้ำผ่านการแก้ไขคุณภาพและสิทธิ์ในการเข้าถึงน้ำสะอาด
โดยสัดส่วนครัวเรือนที่ไม่สามารถเข้าถึงน้ำประปาในชนบทมีถึง12.8% ในเขตเมืองมีแค่ 3.3% ส่งผลให้ครัวเรือน 20% ที่ยากจนที่สุดของประเทศกับต้องซื้อน้ำดื่มบรรจุถัง บรรจุขวดมาดื่มเกือบ 75%
“อยากฝากไปยังรัฐบาลให้เห็นความสำคัญของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับน้ำทั้งหมด รวมถึงร่างพ.ร.บ.ที่พรรคก้าวไกลเสนอไว้ เพราะเราตั้งใจเหลือเกินที่จะให้รัฐบาลมีอำนาจ ในการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเต็มที่เพื่อพี่น้องประชาชน” นายพิธา กล่าว