วันที่ 7 ส.ค.2567 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมระบุข้อความว่า...
จะเหลือใครอีกกี่คน ที่ยังปักหลักสู้กับระบอบทักษิณ
ชีวิตทางการเมืองของผม เกิดขึ้นพร้อมกับระบอบทักษิณ และได้ต่อสู้กับระบอบทักษิณมาตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบัน ก็ยังยืนหยัดต่อสู้กับระบอบทักษิณต่อไป ไม่ว่าใครจะประนีประนอม ฮั้วผู้อำนาจ มีดีลลับ หรือสมประโยชน์ทางการเมืองกันก็ตาม แม้ว่าจะเหลืออยู่เพียงคนเดียว ก็จะสู้ต่อไป
ตอนนี้ระบอบทักษิณมีความพร้อมในทุกองคาพยพ ได้ฝังรากลึกมาตั้งแต่ระบอบทักษิณ ยุคแรก แม้จะถูกการรัฐประหารของ คณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เพื่อล้มล้างระบอบทักษิณ ในปี2549 และ เปิดให้การเลือกตั้งใหม่ในปี 2550 ระบอบทักษิณก็สามารถเอาชนะได้อีก จนมาถึงปี 2557 ระบอบทักษิณถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำรัฐประหารล้มล้างระบอบทักษิณอีกครั้งหนึ่ง และยึดครองอำนาจมาจนถึงการเลือกตั้งปี 2562 พรรคเพื่อไทยก็ยังชนะเลือกตั้งเป็นอำดับ1 อีก ระบอบทักษิณเพิ่งมาเสื่อมถอยและพ่ายแพ้การเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นี่เอง ซึ่งได้พ่ายแพ้ให้กับพรรคก้าวไกล
แต่ในที่สุด ระบอบทักษิณที่ต้องการเข้าสู่อำนาจรัฐให้ได้ จึงตระบัดสัตย์ หักหลังประชาชน จัดรัฐบาลข้ามขั้วกับกลุ่มอนุรักษ์นิยม ที่เคยทำรัฐประหารระบอบทักษิณมาก่อน เปิดดีลลับหรือบิ๊กดีลกับกลุ่มอนุรักษ์นิยม ทำให้ระบอบทักษิณคืนชีพมาอีกครั้งหนึ่ง และแข็งแกร่งมากกว่าระบอบทักษิณในยุคแรก เพราะตอนนั้นระบอบทักษิณอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม แต่เมื่อฮั้วอำนาจกันได้ ผลประโยชน์ลงตัว จับมือเป็นพวกเดียวกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมแล้ว จะไม่มีกลุ่มพลังมวลชนกลุ่มไหน จะต่อสู้ล้มล้างระบบทักษิณได้
การเมืองของประเทศไทยหลังจากนี้ ถ้าหากกลุ่มอนุรักษ์นิยมไม่แตกคอกับระบอบทักษิณเสียก่อน มีการประนอมอำนาจ จัดสรรผลประโยชน์กันลงตัว จะทำให้ระบอบทักษิณภายใต้ร่มเงาของกลุ่มอนุรักษ์นิยม มีความแข็งแกร่ง ยากที่ใครจะล้มล้างได้
ยิ่งเห็นภาพพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเปรียบเสมือนแกนหลักของกลุ่มอนุรักษ์นิยม แสดงไมตรีต่อนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเป็นคนของระบอบทักษิณ ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่นายเศรษฐาเข้ารับตำแหน่งใหม่ๆ จนถึงท่าทีอี๋อ๋อ คุยกันกะหนุงกะหนิงในงานศพมารดาของนายเศรษฐา รวมถึงภาพในวันพระราชทานเพลิงศพ ที่พลเอกประยุทธ์ได้ทักทายพูดคุยกับนายทักษิณ ทำให้รู้สึกว่า จะเหลือใครอีกสักกี่คน ที่ยังประกาศตัวเป็นศัตรูถาวรกับระบอบทักษิณอีก
ด้วยเหตุนี้เองผมจึงเห็นว่า มวลชนผู้รักความเป็นธรรม ที่ปฏิเสธระบอบทักษิณมาโดยตลอด คงจะรู้สึกท้อแท้ อ่อนล้า และหมดกำลังใจ ในการต่อสู้กับระบอบทักษิณที่แข็งแกร่งขึ้นทุกวัน