วันที่ 6 ส.ค.67 เวลา 16.00 น.   พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ “ ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันเเถลงผลการสืบสวน ติดตามการหายตัวไปของ นายเอ หนุ่มชาวญี่ปุ่น วัย 39 ปี ที่ขาดการติดต่อกับเเม่มานาน4 ปี  โดยไล่เรียงไทม์ไลน์ เริ่มตั้งเเต่ วันที่ 5 มี.ค. 63 ที่นาย เอ เดินทางเข้าในไทย  ผ่านด่าน ตม.หนองคาย มาทำงานในกรุงเทพมหานคร ต่อมาวันที่ 8 ก.ย.2563  นายเอ เเละ เพื่อ คือ นายบี ถูกเเจ้งความ ถูกดำเนินคดีอาญา ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ วันที่-8 พ.ย.2563 ศาลเเขวพระนครใต้ออกหมายจับทั้งคู่ วันที่ 10 พ.ย.63 ถูกจับกุททั้งคู่ ต่อมา 12 พ.ย. 63 ฝากขัง นายเอ เเละ นายบี  เเต่นายบี ได้รับการประกันตัวคนเดียว จากนั้นวันที่ 18 พ.ย. นายเอ ถึงได้รับการประกันตัว โดยมีภรรยานายบี เป็นนายประกันให้ 

ต่อมาวันที่ 5 มีนาคม2564 ถึง 5 มีนา 2565 พบความเคลื่อนไหวที่นครสวรรค์ ไปเช่าบ้่นหลังหนึ่ง จากการตรวจสอบพบมัการเปลี่ยนมือคนเช่า เเละพบว่า ต่อวีซ่าครั้งสุดท้าย 6 มีนาคม 2565 ต่อมาวันที่ 8กันยา-ปี 2565 ทั้ง2 คน หนีประกันในชั้นชั้นศาล มีหมายจับของศาลแขวงพระนครใต้ ออกหมายจับอีกครั้ง 

กระทั่งสืบสวนทราบว่า วันที่ 8 มิ.ย.2566 พบป่วยตายที่ โรงพยาบาล สันทราย เชียงใหม่ จากการตรวจสอบไม่พบการทำร้ายร่างกาย เเพทยสรุปความเห็นเสียชีวิตจากปอดติดเชื้อ ขณะนี้ศพยังถูกเก็บรักษาที่รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ 

ซึ่งวันนี้ได้มีการควบคุม ตัวนายบี ได้ที่บ้านพักย่านรามอินทรา พบวีซ่าหมดอายุ ขณะนี้เเจ้งข้อมูลนายเอ ให้สถานทูตให้ทราบเเล้ว ทางสถานทูตเชื่อว่า ศพนิรามกับชายญี่ปุ่น  เป็นเป็นคนเดียวกันกับนายเอ ส่วนครอบครัวไม่ติดใจการเสียชีวิต เเต่ติดใจเรื่องการพิสูจน์อัตลักษณ์ ว่าใช่ลูกชายหรือไม่ โดยตำรวจจะส่งตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันยัน ให้ความกระจ่างกับครอบครัว หากยังสงสัย 

ส่วนทางคดีนั้น สืบเนื่องจากวันที่ 9 มิ.ย.66 เเม่ได้รับข้อความทางอีเมลต้องสงสัยแจ้งว่า นาย เอ ป่วยหนักต้องใช้เงิน เเม้จึงโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารญี่ปุ่น  1 ล้านเยน โอนไปยังบัญชีชื่อชาวญี่ปุ่น

โดยขณะนี้ส่งให้สถานทูตตรวจสอบชื่อผู้รับโอนเงิน วันที่ 21 มิ.ย.66  มีอีเมลมาหาเเม่อีกครั้ง ต้องใช้เงินอีก 300,000 เยน เเต่เเม่ไม่ได้โอนเงินให้ไป  วันที่28มิ.ย.2566 มีความพยามอรเมล์มาหาเเม่อีกครั้ง พร้อมกับส่งรูปลูกชายในสภาพผอมเเห้ง เเม่ก็เเปลกใจ เเต่เเม่ก็ยังไม่โอนเงินให้อีก วันที่ 29 มิ.ย.63 เเม่ติดต่อกับลูกชายได้ ครั้งสุดท้ายผ่านไลน์ จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีก วันที่ 4-6 ก.ค. 2567 มีความเคลื่อนการใช้บัตรเครดิต เเม้ว่านายทากาชีโร่จะตายไปนานเเล้ว จนกระทั่งล่าสุดวันที่ 5 สิงหาคม 2567 ครอบครัวได้มาเเจ้งความที่สน.คลองตัน  เวลานี้ เเม่โอนเงินไปให้เเค่1 ครั้ง คือ 1 ล้านเย็น หลังจากนี้ ตำรวจจะเร่งตรวจสอบที่อีเมล์สวมรอยไปหลอกเเม่ให้โอนเงิน รวมทั้งบุคคลที่นำบัตรเครดิตผู้ตายไปใช้ 

ภายหลังตำรวจชุดสืบสวนสอบปากคำนายบีในเบื้องต้น เเละได้คุมตัวนายบีออกมาจากห้องสืบสวน ไปยังห้องสอบสวน ระหว่างนั้น บรรดาสื่อมวลชนได้พยายามสอบถาม นายบีว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ โดยนายบีตอบเป็นภาษาญี่ปุ่น เเปลเป็นไทยว่า ตัวเขาไม่รู้เรื่องอะไร ไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครีย เเละหันมายิ้ม 

สำหรับศพของนาย ทากาชีโร่ ตอนนี้ยังอยู่ที่เชียงใหม่ การผ่าพิสูจน์เสร็จเเล้ว โดยเเพทย์ลงความเห็นไม่มีการถูกทำร้ายร่างกาย