สืบมีนบุรี รวบโจรจอมฉกตู้บริจาควัดแสนสุข ริมคลองแสนแสบมีนบุรี รับสารภาพว่ากลางคืนฝันว่า “ท้าวเวสสุวรรณ วัดแสนสุข” ตามมาทวงให้เอาไปคืน แต่ไม่เชื่อจู่ ๆ ถูกสืบมีนบุรี ตามจับพร้อมของกลางได้โดยไม่ทันตั้งตัว
จากกรณีเมื่อวันที่ 2 ส.ค.67 เวลาประมาณ 13.40 น. ได้มีชายจำนวน 1 คน สวมเสื้อฮาวาย สีขาว กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 100 สีน้ำเงิน ไม่ทราบทะเบียน เข้ามาภายในวัดแสนสุข จากนั้นได้ใช้คีมตัดโซ่ที่คล้องกับตู้บริจาคเงิน ที่ตั้งไว้บริเวณศาลาท่าน้ำภายในวัด แล้วยกตู้บริจาคเงินขึ้นรถรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง ขับหลบหนีไป ต่อมาพระหนุ่ม ผลโพธิ์ พระลูกวัดแสนสุข ได้รับมอบอำนาจให้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีกับคนร้าย ที่เข้ามาลักเอาตู้บริจาคภายในมีเงินบริจาคของพี่น้องประชาชน ประมาณ 5,000 บาท
ต่อมา พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 , พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี ทราบเรื่อง จึงได้พากันไปตรวจที่เกิดเหตุ พบโซ่ที่คล้องยึดตู้บริจาค ถูกตัดคนร้ายใช้คีมตัดโซ่ลักเอาตู้ไป ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่บริเวณดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี , พ.ต.ท.ชนันท์ธัช แก้วทอง และ พ.ต.ต.ประจักษ์ กุลนาพันธ์ พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี เร่งทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 67 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีที่ทราบข่าวจากเพจเฟสบุ๊ค สน.มีนบุรี ที่ออกประกาศเตือนและขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนแจ้งข่าว แจ้งว่าพบชายขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างตามที่ สน.มีนบุรี ประกาศเตือน อยู่ที่บริเวณย่านฉลองกรุง ฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี จึงได้ไปทำการตรวจสอบพบชายขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 100 สีน้ำเงิน ดำ หมายเลขทะเบียน 7 กฬ 808 กรุงเทพมหานคร แบบพ่วงข้าง ที่บริเวณจุดกลับรถใต้สะพาน ซอยฉลองกรุง 68 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร มี นายประวิทย์ ลือลีลาโรจน์ หรือ เอ หนองจอก เป็นผู้ขับขี่มีลักษณะตรงตามภาพจากกล้องวงจรปิดของวัด อีกทั้งรถจักรยายนต์แบบพ่วงข้าง มีลักษณะตรงกับภาพกล้องวงจรปิดที่ใช้ก่อเหตุลักทรัพย์จริง จึงทำการสอบสวน นายประวิทย์ ฯ รับว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2567 เวลาประมาณ 13.00 น. ได้เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ตู้บริจาค ภายในวัดสุทธิสะอาด ถ.นิมิตใหม่ แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร โดยได้ยกตู้บริจาคขึ้นใส่ในรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง ขับออกมาตามถนนนิมิตใหม่ จอดข้างทางแล้วงัดตู้ ได้เงินประมาณ 80 บาท แล้วทิ้งตู้ไว้ข้างทาง เงินที่ได้มานั้นมีจำนวนไม่มาก
จากนั้นจึงได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มุ่งหน้ามาที่วัดแสนสุข ถึงเวลาประมาณ 13.40 น. ขับรถเข้าไปในวัด แล้วไปที่ศาลาท่าน้ำริมคลองแสนแสบ เห็นตู้บริจาคล่ามโซ่คล้องกุญแจอยู่ ในขณะนั้นปลอดคน จึงได้ใช้คีมตัดที่เตรียมมา ตัดโซ่ที่คล้องตู้บริจาคไว้ แล้วยกตู้ขึ้นรถ หลบหนีไปยังถนนฉลองกรุง เอาตู้บริจาคไปงัดแถวเพิงร้างริมถนน ข้างหมู่บ้านฟลอร่าวิลล์ ได้เงิน ประมาณ 200 บาท แล้วทิ้งตู้บริจาคไว้ แล้วหลบหนีไป จนเจ้าพนักงานตำรวจมาพบตัว
และสารถาพว่า เมื่อคืนตนเองฝันว่า ได้มีท้าวเวสสุวรรณ ของวัดแสนสุข ตามมาทวงตู้บริจาคของวัน ให้ตนรีบนำไปคืน แต่ตนเองเกรงความผิดเนื่องจากเคยมีประวัติต้องคดียาเสพติดและลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง จึงได้เมินเฉย แต่ อยู่ ๆ วันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี มาพบตนเองแบบไม่คาดฝัน เชื่อว่าเป็นอิทธิฤทธิ์ของท้าวเวสสุวรรณ ของวัดแสนสุข แน่ๆ ซึ่งขณะที่ตนเองขับรถผ่านท้าวเวสสุวรรณ ภายในวัดรู้สึกหนาวสั่น เหมือนมีคนมองอยู่ เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม จึงได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง พร้อมคีมตัดโซ่ และเหรียญแบบ 25 และ 50 สตางค์ ประมาณ 200 เหรียญที่ซุกซ่อนอยู่ในรถพ่วงข้าง และพาไปตรวจยึดตู้บริจาคของวัดที่งัดเอาเงินออกไปแล้ว ไว้เป็นของกลางประกอบการดำเนินคดี
ต่อมา นายประวิทย์ หรือ เอ หนองจอก ได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปทำการชี้จุดที่ก่อเหตุ เพื่อจะไปขอขมา ท้าวเวสสุวรรณ ของวัดแสนสุข ที่ได้มาเข้าฝันกับตนเองเมื่อคืนที่ผ่านมาและเชื่อว่าดลบันดาลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี จับกุมตนเองได้พร้อมของกลาง และขอขมาเจ้าอาวาสวัดแสนสุข เพื่อขอให้แก้คุณไสย และรับปากว่าเมื่อพ้นโทษออกมาจะไม่ก่อเหตุซ้ำอีก
จึงได้นำตัวนายประวิทย์ หรือ เอ หนองจอก ส่ง ร.ต.อ.วีรศักดิ์ บุญศรี รอง สว.(สอบสวน) สน.มีนบุรี ดำเนินคดีโดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณ โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม