วันที่ 5 ส.ค.67 พันตำรวจเอก วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน เปิดเผยว่า วันนี้ทางหญิงชาวญี่ปุ่นผู้เสียหาย ได้เข้ามาแจ้งความ เพื่อตามหาลูกชาย เนื่องจากลูกชายมาทำงานที่ประเทศไทยเมื่อหลายปีแล้ว และไม่สามารถติดต่อลูกชายได้ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าหนุ่มชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียหาย ถูกดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันยักยอกทรัพย์" เมื่อปี 2563 ถูกจับกุมตัวได้ในพื้นที่ สน.คลองตัน ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งฝากขังที่ศาลอาญา โดยเจ้าตัวได้รับการประกันตัวไป หลังจากเมื่อครบกำหนดให้มารายงานต่อศาลก็ไม่มา (หลบหนีประกันตัวในชั้นศาล) ทางอัยการจึงแจ้งให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับอีกครั้ง
โดยตอนนั้น นายทากาชีโร่ ได้ถูกจับกุมพร้อมเพื่อน อีก 1 คน ซึ่งได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องออกกำลังกายด้วยกัน และได้มีการยักยอกทรัพย์ มูลค่าหลักแสนบาท ซึ่งทั้งคู่ได้เอาเครื่องออกกำลังกาย และเงินไป ทางบริษัทจึงมาแจ้งความดำเนินคดี
เบื้องต้น จากการสอบสวน พบว่า ญาติของ นายทากาชีโร่ มีความสงสัยเพื่อนที่อยู่กับ นายทากาชีโร่ ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปหรือไม่ แต่ทั้งนี้ก็ยังเป็นแค่ความสงสัย ทางตำรวจยังไม่ได้สรุปว่า นายทากาชีโร่ ยังมีชีวิตอยู่ หรือเสียชีวิตไปแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ตำรวจมีข้อมูลว่า ทั้งคู่มีการไปต่อวีซ่า ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2564 โดยตัว นายทากาชีโร่ ไปต่อวีซ่า ที่ ตม. จ.นครสวรรค์ แต่เพื่อน ไปต่อที่ศูนย์ราชการ
สำหรับ ประเด็นที่มีอีเมลปริศนา ส่งไปขอเงินกับแม่ของ นายทากาชีโร่ โดยอ้างว่า นายทากาชีโร่ ป่วยหนัก ต้องการใช้เงินนั้น จากการตรวจสอบพบเป็นอีเมลของเพื่อน เป็นคนส่งไป เบื้องต้นทางตำรวจได้ประสานไปยังตำรวจนครสวรรค์ เพื่อตรวจสอบจุดใกล้เคียง ตม. ที่ นายทากาชีโร่ ไปต่อวีซ่า และหาที่อยู่ เพื่อหาเบาะแสคนหาย