วันที่ 5 สิงหาคม 2567 เวลา 17.00 น.เวลา 17.00 น.ที่สน.คลองตัน พ.ต.อ. วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน ได้เปิดเผยถึงกรณีที่นางโยชิมิ นิชิ อายุ 66 ปี สัญชาติญี่ปุ่น เข้าเเจ้งความว่า นายทากาชีโร่ นิชิ อายุ 39 ปี สัญชาติ ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นลูกชายได้หายตัวไปหลังจากเดินทางเข้ามาทำงานที่ประเทศไทยกว่า 4 ปี โดยติดต่อกับลูกชายครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.63 ผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก
ด้าน พ.ต.อ. วชิรากรณ์ เปิดเผยว่า วันนี้ทางนางโยชิมิได้เดินทางมาเเจ้งว่านายทากาชีโร่ หายตัวไปจึงได้ให้ทางตำรวจติดตามตัว ซึ่งทางนายทากาชีโร่ มีถูกดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ในปี 2563 พร้อมเพื่อนชาวญี่ปุ่นอีก 1 ราย ในท้องที่สน.คลองตัน เนื่องจากได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องออกกำลังกายด้วยกัน และได้มีการยักยอกทรัพย์ มูลค่าหลักแสนบาท โดยทั้งคู่ได้เอาเครื่องออกกำลังกาย และเงินไป ทางบริษัทจึงมาแจ้งความดำเนินคดี ทั้งนี้หลังจากถูกควบคุมตัวพนักงานสอบสวนได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลและได้มีการประกันตัว ซึ่งต่อมานายทากาชีโร่ ได้หนีประกันในชั้นชั้นศาล และได้มีหมายจับของศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.321/2565
โดยทางญาติของนายทากาชีโร่ สงสัยเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่ถูกจับพร้อมกันกับนายทากาชีโร่ เมื่อปี 2563 ซึ่งในตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ เเต่ล่าสุดได้มีข้อมูลว่าวีซ่าของทั้ง 2 ราย ได้ทำวีซ่าครั้งล่าสุดประมาณวันที่ 5 มี.ค. 2564 โดยนายทากาชีโร่ ได้มีการไปต่อวีซ่าที่ ตม.นครสวรค์ ส่วนเพื่อนอีกรายไปต่อต่อวีซ่าที่ บก.ตม.1 ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ
ส่วนประเด็นที่มีอีเมลปริศนา ส่งไปขอเงินกับแม่ของ นายทากาชีโร่ โดยอ้างว่า นายทากาชีโร่ ป่วยหนัก ต้องการใช้เงินนั้น จากการตรวจสอบพบเป็นอีเมลของเพื่อน เป็นคนส่งไป
ด้าน พ.ต.อ. วชิรากรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นทางตำรวจได้มีการติดต่อกับตำรวจในพื้นที่จ.นครสวรค์ ให้ตรวจสอบที่พักอาศัยที่นายทากาชีโร่ เคยเเจ้งไว้ในใบ ตม. เนื่องจากว่านายทากาชีโร่ ก็ยังเป็นผู้ต้องหาในอีก 1 หมายจับอยู่อีกด้วย ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบได้ว่ามีชีวิตอยู่หรือไม่