เมื่อวันที่ 4 ส.ค.67 นายกัณฑ์อเนก สวัสดิ์เฉลิม กรรมการวัดชินวราราม (ทนายความ) ได้รับมอบอำนาจมาจาก เจ้าอาวาสวัดชินวราราม เข้าแจ้งความต่อว่าพ.ต.ท.สุธน จิตติภูมิภักดี พนักงานสอบสวนว่า วันนี้เวลาประมาณ 08.30 น. ได้ตรวจสอบกล้องวงปิดที่ติดตั้งเอาไว้ภายในพระอุโบสถวัดชินวราราม ตำบลบางขะแยง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี และพบว่า เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 15.30 น. ได้มีคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ใช้รถจักรยานยนต์ เป็นพาหนะ ได้ขับรถมาจอดภายในบริเวณวัด จากนั้น ได้เดินเข้ามาภายในพระอุโบสถ และได้ใช้ไขควงงัดตู้บริจาคเงินของวัด และลักเอาเงินภายในตู้บริจาคไปประมาณ 5,000 บาท จากนั้น คนร้ายจึงได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ล่าสุด วันที่ 5 ส.ค.67 ภายใต้การอำนวยการของพ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.เมืองปทุมธานี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เสฐฏพงศ์ ทรงกลด รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ต.สงค์การณ์ สมจิตร สว.สส.ฯ พร้อมกำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองปทุมธานี เร่งสืบสวนหาข่าวและจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน ภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นหลักฐานที่ให้ตำรวจตามจับกุมตัว จนทราบว่า ผู้ที่ก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์ ทะเบียน กทม. ผู้ครอบครองคือ นางสาวอุดมพร (ขอสงวนนามสกุล) และตรวจสอบโซเชียล มีเดีย ทราบว่า นางสาวอุดมพรฯ ได้คบหากับนายสุดใจ หรือโก (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งนายสุดใจ มีลักษณะรูปพรรณคล้ายกับบุคคลที่ก่อเหตุงัดตู้บริจาค
จากการตรวจสอบประวัติคดีอาญา/หมายจับ พบมีคดีติดตัวเพียบ เลขคดี/ปี 283/2556 สภ.บางซ้าย ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์,ลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน เลขคดี/ปี 759/2556 สภ.บางกรวยลักทรัพย์ เลขคดี/ปี 352/2559 สภ.วิหารแดงลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อต่อมาว่านายสุดใจ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51ปี ได้บริเวณหน้าหอพักไม่มีชื่อ ซอยท่าข้าม 8 เขตบางขุนเทียน จังหวัดกรุงเทพมหานคร พร้อมตรวจยึดของกลาง ที่ใช้ก่อเหตุ สอบปากคำผู้ก่อเหตุสารภาพว่า ก่อเหตุจริง ส่วนเงิน ที่ได้จากตู้บริจาค นายสุดใจฯ ให้การว่า เงินสด ประมาณ 3,000 กว่าบาท ได้นำเงินไปใช้หนี้หมดแล้ว เจ้าพนักงานตำรวจได้ ตรวจยึดของกลาง แจ้งข้อกล่าวหา ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป