จากกรณีที่มีกลุ่มนักพนันหญิงร้องเรียนตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ตรวจสอบตำรวจ สน.ลาดกระบัง ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม ม.157 ร่วมกันตบทรัพย์จำนวนเงิน 800,000 บาท คืนเจ้าของบ้านที่ร่วมเล่นการพนัน แต่เจ้าของบ้านกลับไม่ถูกดำเนินคดี
วันที่ 5 ส.ค.67 นางสาวณัฏฐา อายุ 39 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้านที่ถูกกล่าวหา เดินทางมาพบนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ พร้อมหลังฐานใบแจ้งความ และใบบันทึกความรับสารภาพของกลุ่มนักพนันทั้ง 7 คน ว่าร่วมมือกันฉ้อโกง แม่ของตัวเองในลักษณะทำไพ่หลอกผู้เสียหายเสียการพนัน และพยานบุคคลซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ที่ร่วมกันวางแผนแจ้งความจับกลุ่มผู้ลักลอบเล่นการพนันดังกล่าว
นางสาวณัฏฐา เปิดเผยว่ากรณีที่นักพนันกล่าวหาไม่เป็นความจริง ตัวเองเป็นผู้แจ้งความกับตำรวจ สน.ลาดกระบัง ในวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ให้เข้าจับนักพนันที่บ้านพักของแม่ตัวเองย่านลาดกระบัง เนื่องจากก่อนหน้านี้แม่ของตัวเองได้เสียเงินการเล่นพนันไปจำนวนเงินกว่า 10 ล้านบาท โดยนัดหมายเล่นการพนันตามสถานที่ต่าง ๆ จำนวนหลายครั้ง ก่อนในวันดังกล่าวจะนัดหมายมาเล่นที่บ้านพักของแม่ตัวเอง ย่านลาดกระบัง และเป็นเหตุที่ทำให้ตำรวจเข้าบุกจับกุมนักพนันทั้งหมดจำนวน 7 คน
ซึ่งทุกคนให้การรับสารภาพว่าเล่นการพนัน โดย 3 ใน 7 ได้มีการเซ็นลงคำรับสารภาพเป็นลายลักษณ์อักษร ว่าได้ร่วมกันฉ้อโกงเป็นเงินหลายล้านบาทจริง ลักษณะทำไพ่หลอกผู้เสียหายเสียการพนัน และได้ลงบันทึกประจำวัน โดยกลุ่มนักพนันตกลงว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้บางส่วน จึงเป็นที่ยืนยันว่าทางครอบครัวของตัวเองและตำรวจไม่ได้ร่วมกันตบทรัพย์แต่อย่างใด ทั้งหมดเป็นการไกล่เกลี่ยเพื่อให้ทางกลุ่มนักพนันทั้ง 7 คนร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย
ทั้งนี้กลุ่มนักพนันดังกล่าวได้ชดใช้มาแล้วเป็นจำนวนและทรัพย์สินรวมกว่า 1,600,000 บาท และได้ลงบันทึกประจำวันว่าจะชดใช้ค่าเสียหายเพิ่มให้อีก 1,500,000 บาท ซึ่งส่วนนี้ทางกลุ่มนักพนันได้ผิดนัดการชำระเงินตามตกลงในบันทึกประจำวัน วันนี้จึงเดินทางมาพบนายเดชา เพื่อให้ช่วยเหลือทางด้านกฎหมายพร้อมดำเนินคดีทางอาญาเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม นางสาวณัฏฐา เปิดเผยอีกว่ากรณีที่แม่ของตัวเองไม่ถูกดำเนินคดี เนื่องจากในวันแจ้งความได้ลงบันทึกประจำวันไว้ว่าเป็นพยานในคดีหรือสายลับ เพื่อแจ้งเบาะแสให้ตำรวจเข้าจับกลุ่มกลุ่มนักพนันกลุ่มดังกล่าว ที่ชักชวนให้เล่นการพนัน และอยู่ในฐานะผู้เสียหาย ส่วนสาเหตุที่ต้องวางแผนเข้าแจ้งความกับตำรวจให้บุกตรวจค้น เนื่องจากได้ปรึกษากับทางเพื่อนสนิทแล้วว่า หากแจ้งความดำเนินคดีโดยทั้วไปอาจจะทำให้ดำเนินการเกิดความล่าช้า จึงได้ตกลงกันภายในครอบครัวนีดหมายกลุ่มนักพนันเข้ามาเล่นภายในบ้านพักและแจ้งให้ตำรวจเข้าจับ เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนกรณีที่ทางกลุ่มนักพนันร้องให้ตรวจสอบ ตำรวจชุดจับกุม ว่ามีพฤติกรรมร่วมกันตบทรัพย์นั้น พลตำรวจตรี เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการนครบาล 3 เปิดเผยว่าขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกมิติทั้งเรื่องเกี่ยวกับเรียกรับสินบน รวมถึงเรื่องของการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในวันที่เข้าจับกุม คาดว่าจะมีความคืบภายในสัปดาห์นี้ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย