วันที่ 5 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวนาที่จังหวัดยโสธรที่ทำนาปรังตามแนวพื้นที่ลุ่มน้ำชีโดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลเขื่องคำ และตำบลขุมเงิน อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ซึ่งมักจะมีชาวนาพากันทำนาปรังเป็นจำนวนมากเพื่อทดแทนการทำนาปี เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำตามแนวแม่น้ำชีจึงเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมในฤดูกาลทำนาปีของทุกปีและขณะนี้ข้าวนาปรังกำลังออกรวงแต่บางส่วนยังไม่แก่เต็มที่พอที่จะเก็บเกี่ยวได้แต่ชาวนาในพื้นที่ก็จำเป็นต้องเร่งเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังก่อนกำหนดให้แล้วเสร็จเพื่อป้องกันน้ำท่วมเพราะถ้าหากปล่อยไว้นานกว่านี้ก็อาจจะถูกน้ำไหลเข้าท่วมจนได้รับความเสียหายได้ ขณะเดียวกันยังมีพื้นที่นาข้าวของชาวนาอีกหลายแปลงที่รอการการเก็บเกี่ยวแต่ไม่สามารถเข้าไปเก็บเกี่ยวได้เนื่องจากถูกน้ำท่วมสูงจึงจำเป็นต้องปล่อยให้น้ำท่วมจนได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ส่วนข้าวนาปรังที่ชาวนาเร่งเก็บเกี่ยวก่อนกำหนดซึ่งยังไม่แก่เต็มที่จึงทำให้มีเมล็ดข้าวที่ยังสีเขียวอยู่ปะปนจำนวนมากเมื่อนำไปขายก็จะถูกโรงสีที่รับซื้อกดราคาเหลือกิโลกรัมละ 8.50 บาท จากปกติที่ตั้งราคาไว้กิโลกรัมละ 9.40 บาท แต่ชาวนาก็ต้องยอมเพราะไม่มีทางเลือก
นางศิริพร มาตรเหลือง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 5 บ้านคุยตับเต่า ตำบลขุมเงิน อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ชาวนา บอกว่า ตนทำนาปรังในพื้นที่เอาไว้ จำนวน 5 ไร่ ลงทุนไปหลายหมื่นบาทซึ่งเป็นการทำนาปรังในรอบที่ 2 และขณะนี้พบว่าปริมาณน้ำในลำห้วยกุดจับซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำชีที่อยู่ติดกับพื้นที่นาของตนปริมาณน้ำจ่อที่จะไหลบ่าเข้าท่วมนาข้าวแล้วจนเกรงว่าน้ำจะท่วมข้าวจนได้รับความเสียหายจึงได้ว่าจ้างรถเกี่ยวข้าวเข้าไปเร่งเกี่ยวข้าวนาปรังให้แล้วเสร็จอย่างเร่งด่วนทั้งๆที่ข้าวยังไม่แก่เต็มที่ก็ตาม เพราะถ้าหากปล่อยไว้นานหลายวันอาจจะทำให้น้ำไหลเข้าท่วมจนได้รับความเสียหายได้ โดยขณะนี้ยังมีนาข้าวของเพื่อนบ้านหลายแปลงที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกันถูกน้ำท่วมสูงจนไม่สามารถที่จะเข้าไปเก็บเกี่ยวได้จึงจำเป็นต้องปล่อยให้ถูกน้ำท่วมเสียหายไปอย่างน่าเสียดาย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าจากการสอบถามชาวนาหลายคนบอกว่าในปีนี้น้ำมาเร็วกว่าทุกปีซึ่งปกติช่วงน้ำหลากจะอยู่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ถึง กันยายน ของทุกปีจึงทำให้ข้าวนาปรังส่วนใหญ่แก่เต็มที่และชาวนาได้พากันเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จเกือบหมดแล้วแต่ในปีนี้น้ำมาเร็วแต่ข้าวนาปรังบางส่วนยังไม่แก่จึงทำให้ถูกน้ำท่วมและได้รับความเสียหาย