'กัน จอมพลัง พาหญิงสาวและครอบครัวร้อง ตร.ช่วยด้วย หลังถูกลูกตำรวจยศ “พ.ต.ท.”ปีนระเบียงบ้านมีวงจรปิดมัดชัดเจน พ่อไม่ห้ามไม่ขอโทษแถมยังขู่เอาปืนยิงอีก -ผู้การนนทบุรี นัดสองฝ่ายคุยบ่ายนี้   


กัน จอมพลัง พาผู้เสียหายหญิงพร้อมครอบครัวที่เป็นเด็กและผู้หญิง เข้ายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ( ตร.) กรณีถูกชายข้างบ้านแอบปีนระเบียงบ้าน จนตกใจ จึงไปลงประจำวันไว้ที่ สภ.บางบัวทอง ก่อนทราบว่าชายข้างบ้านเป็นตำรวจยศ “พ.ต.ท.”จึงติดกล้องวงจรปิดเห็นลูกชายของตำรวจปีนระเบียงมาที่บ้านอีก จึงพานิติหมู่บ้านไปคุยด้วยดีๆ กับถูกขู่ฆ่าทั้งครอบครัว ในบ้านมีผู้หญิงและเด็ก รวม 7 คน จึงต้องพากันหนีออกไปอาศัยอยู่กับญาติที่อื่น ไม่กล้ากลับเข้าไป จึงมาขอให้ "กัน จอมพลัง" ช่วยพาน้องกลับไปบ้าน 

กัน จอมพลัง กล่าวว่าวันนี้พาผู้เสียหายมาร้องขอความช่วยเหลือ โดยมากันทั้งครอบครัว เพราะมีเพื่อนบ้านเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่กันมานานแล้ว แรกๆพูดจาดีไม่มีปัญหาอะไรกัน แต่ต่อมาพบว่าเริ่มมีความผิดปกติเหมือนมีคนปีนเข้ามาในบ้านตอนกลงคืน จึงเอ๊ะใจว่าใช่บ้างบ้านหรือไม่ จึงได้ไปสอบถาม พอถามก็มีท่าทีโวยวายและอ้างว่าตนเองมีศักดิ์ศรีทั้งที่แค่ถามเท่านั้น จึงบอกว่าขอโทษจากนั้นจึงได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด จึงเห็นว่าลูกชายของนายตำรวจปีนเข้ามาบ้านและอยู่ตรงระเบียงพยายามด้อมๆมองๆ จึงรู้สึกกลัวเพราะในบ้านมีแต่ผู้หญิงกับเด็กจึงห่วงเรื่องความปลอดภัย จึงได้ไปถามนายตำรวจเจ้าของบ้านอีกว่าลูกชายปีนเข้ามาในบ้านแทนที่จะขอโทษแต่กลับมีอารมณ์และโวยวายใส่ทำตัวยิ่งใหญ่กว่าเดิม ทั้งที่มีเพื่อนบ้านเป็นตำรวจน่าจะพึ่งพาอาศัยได้แต่กลับมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตำรวจที่เป็นเพื่อนบ้านอยู่ได้ แต่ประชาชนที่มีครอบครัวเด็กเล็กและผู้หญิงอยู่บ้านไม่ได้ ทำแบบนี้ภาพลักษณ์องค์กรตำรวจเสียหาย อีกทั้งได้ข้อมูลว่าลูกชายอาจจะมีอาการเป็นเด็กพิเศษ ซึ่งตนเห็นว่าหากนานตำรวจคนดังกล่าวเครียดจากงานการเลี้ยงลูกต้องการให้ช่วยก็บอก แต่อย่ามาระบายอารมณ์กับชาวบ้านที่เขาไม่รู้เรื่อง เพราะวันนี้ครอบครัวผู้เสียหายต้องการกลับไปอยู่บ้านแล้วแต่ก็กลับไม่ได้เพราะรู้สึกหวาดกลัว 

ด้านผู้เสียหาย กล่าวว่า บ้านนายตำรวจอยู่กัน 3 คน คือ นายตำรวจแฟนและลูกชาย และรู้จักกันมานานเพราะตนเองอาศัยที่บ้านใกล้กันมานาน 6ปีแล้วปกติจะคุยกับแฟนของตำรวจ  วันที่เกิดเรื่องครั้งแรกตอนที่ยังไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดคนในบ้านเห็นว่ามีผู้ชายตัวสูงปีนเข้ามาในบ้าน จึงมั่นใจว่าไม่ใช่ลูกชายลักษณะพยายามจะเปิดกระจก ส่วนครั้งที่สองหลังจากที่ติดวงจรปิดก็พบว่าเป็นลูกชายจึงได้ประสานกับนิติบุคคลเข้ามาคุยและแจ้งกับนายตำรวจว่าลูกปีนมาในบ้านแต่นายตำรวจคนดังกล่าวกลับโวยวายและบอกว่าจะอะไรกับลูกผมและบอกว่าลูกพิการมีบัตรคนพิการ พร้อมระบุว่า ก่อนหน้านี้คนในบ้านเห็นว่าคนที่ปีนเป็นตำรวจและยังเคยถามว่าปีนทำอะไรก่อนนจะหายเข้าไป ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากันมาก่อนและอยู่บ้านติดกันมามานาน ที่ผ่านมาจะคุยกับแฟนของนายตำรวจเพราะอยู่บ้าน ส่วนตัวตำตรวจไม่ค่อยได้คุยกัน ยอมรับว่ารู้สึกงงมาก ว่าทำไมอยู่ๆถึงมาปีนบ้านทั้งที่บ้านอยู่ใกล้ตำรวจก็คิดว่าจะปลอดภัยมาเจอเหตุการณ์นี้รู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะมีการขู่ว่าจะยิงปืนผ่านกระจกด้วย  ยิ่งทำให้กลัวมาก มีอยู่ครั้งนึงน้องชายมาที่บ้านและจอดรถหน้าบ้านก็ถามว่า มองอะไรกู น้องก็บอกว่าไม่ได้มองอะไรและขออย่ามาทำแบบนี้อย่ามาทำเก่งกับประชาชน ก่อนที่ตอนเช้าจะเดินมาหาเรื่องแม่และคุยเสียงดังพอตอนเย็นน้องชายมาอีกก็ยังมาหาเรื่อง 

ผู้เสียหายยังกล่าวอีกว่า หลังจากนี้ หากจะซื้อบ้านอีกจะไม่ซื้อทาวน์โฮมแล้วแต่คงจะซื้อบ้านเดี่ยวไปเลยเพราะเข็ดและกลัวกับเพื่อนบ้านที่แม้จะเป็นตำรวจก็ไม่ได้ทำทำให้รู้สึกปลอดภัย 


อย่างไรก็ตาม ในเวลา 14.00 น.ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี จะเชิญฝ่ายคู่กรณีมาพูดคุยด้วยว่าเกิดปัญหาอะไรและจะหยุดได้หรือไม่เพื่อหาข้อยุติดังกล่าว