จากกรณีกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายขับรถจักรยนต์เข้าไปภายในซอย 13/4 ถนนกาญจนวนิช เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และขับเข้าไปอย่างช้าๆสายตามองหารถจักรยานยนต์ และขับเหมือนกันกำลังเมาเซไปเซมา ก่อนที่จะเลี้ยวรถกลับมาและหันไปเห็นรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง ซึ่งจอดเสียบกุญแจคาไว้  ไว้ที่บริเวณปากซอย 13/4 แล้วก็จอดรถตัวเองเดินมาเข็นรถจักรยานยนต์คันนี้ออกไปแล้วก็สตาร์ทเครื่องขับหลบหนีไป ส่วนรถจักรยานยนต์ของตัวเองก็จอดไว้ริมถนนแล้วย้อนกลับมาเอาอีกครั้ง ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณตี 3 คืนวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมาและเจ้าของรถมาทราบเหตุว่าหายไปตอนตี 5 รุ่งเช้า และเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.หาดใหญ่ เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า  รุ่น เวฟ 110 ไอ  สีแดง หมายเลขทะเบียน 1กว 3593 สงขลา หลังจากที่เพื่อนยืมไปแล้วขับมาจอดเข้าไปในพักแต่เสียบกุญแจลืมคาไว้ที่รถจนถูกคนร้ายขโมยไป

ล่าสุดวันที่ 4 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามโจรกรรมรถ สภ.หาดใหญ่ นำโดย พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก. พ.ต.ต.ธีรพงศ์  วิชิต  สว.สส.สภ.หาดใหญ่ , ร.ต.อ.อานุสิทธิ์  เนียมแกล้ว  รอง สวป.หัวหน้าชุดปราบปรามปรามโจรกรรมรถ สภ.หาดใหญ่ได้สืบสวนแกะรอยคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิด จนรู้ตัวว่าเป็นใคร  และพักอยู่ที่ หอพักในซอย 12/1 เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ซึ่งอยู่ถัดจากซอยที่ไปขโมยรถแค่ซอยเดียว และได้เข้าจับกุมได้คาห้องพักเป็นชาย อายุ  34  ปี (ขอสงวนชื่อนามสกุล) เป็นชาว อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา พร้อมด้วยของกลาง  11 รายการ รวมถึงรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า  เวฟ 125 ไอ  สีขาว,แดง   หมายเลขทะเบียน 2กช 9210 สงขลา ที่ขับไปก่อเหตุ   และ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 110 ไอ  สีแดง   ที่ขโมยมาและถอดป้ายทะเบียนออก นอกนั้นก็เป็นกุญแจ ป้ายทะเบียนและชุดที่สวมใส่ตอนขับรถไปก่อเหตุและหมวกกันน๊อค 

จากการสอบสวนก็ยอมรับสารภาพว่าไปก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์จริงเพราะว่าตอนนั้นเมา และเครียด เพราะมีปัญหาครอบครัวเงินไม่พอใช้ เมียกับลูกอีก 3 คนกลับไปอยู่สะบ้าย้อย จึงต้องการที่จะขโมยรถจักรยานยนต์ไปขายเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายแก้ปัญหาความเดือดร้อนของครอบครัว ภายหลังถูกจับกุมได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีในข้อลักทรัพย์ (รถจักรยานยนต์) ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิด หรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือรับของโจร

พร้อมทั้งประสานเจ้าของรถมารับรถกลับไปพร้อมกับย้ำเตือนให้ระวังว่าอย่าเสียบกุญแจคาไว้ที่รถเพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้รถหายเป็นอันดับหนึ่งเพราะคนร้ายจะตระเวนหารถที่เสียบกุญแจคาไว้เป็นคันแรก