รถพ่วงบรรทุกน้ำมันปาล์มดิบหนัก 32 ตัน จากจังหวัดสตูล มุ่งหน้าจังหวัดปทุมธานี ถึงชุมพรเกิดยางตัวพ่วงระเบิดไฟลุกไหม้รถดับเพลิงช่วยไม่ทันไฟไหม้ล้อเสียหายจำนวน 6 ล้อ โชคดีคนขับสลัดหัวลากหนีห่างไปกว่า 100 เมตร
         

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 3 ส.ค.67 พ.ต.ท.สามารถ  แท่นอินทร์  สว.(สอบสวน)สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถกึ่งพ่วงบรรทุกน้ำมันปาล์มดิบไฟลุกไหม้ บนถนนสายเพชรเกษมหลักกม.ที่ 474+200  ตำบลท่าข้ามรอยต่อตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ทำให้การจราจรติดขัด จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยรถดับเพลิง อบต.ท่าข้าม ตำรวจทางหลวงชุมพร หน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ และเจ้าหน้าที่ปภ.ชุมพร 


     

บริเวณที่เกิดเหตุอยู่ฝั่งขาขึ้นกรุงเทพมหานครเยื้องกับด่านชั่งน้ำหนักท่าแซะพบว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.ท่าข้ามกำลังเร่งฉีดน้ำไปที่บริเวณล้อข้างขวาจำนวน 6 ล้อของรถกึ่งพ่วงทะเบียน 70-xxxx กระบี่ ที่มีเปลวไฟลุกไหม้ ทำให้เกิดความเสียหายทั้ง 6 ล้อ เหลือแค่วงล้อกระทะเหล็ก แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังต้องฉีดน้ำเลี้ยงทั้งล้อและตัวแท็งก์ภายในบรรจุน้ำมันปาล์มดิบอยู่ตลอดเวลาป้องกันเกิดเปลวไฟประทุขึ้นมาอีกจนแน่ใจว่าดับสนิทโดยใช้เวลานับชั่วโมง   ห่างไปประมาณ 100 เมตร พบรถบรรทุกยี่ห้อ UD สีขาวทะเบียน 70-xxxx กระบี่ จอดอยู่ริมไหล่ทาง 


       

สอบถามนาย ธีระภัทร อายุ 22 ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช คนขับทราบว่า บรรทุกน้ำมันปาล์มดิบจำนวน 32 ตัน จากจ.สตูล ไปส่งที่จ.ปทุมธานี เมื่อถึงที่เกิดเหตุเกิดยางล้อหลังขวาคู่หน้าระเบิด หลังจากนั้นรีบจอดรถและเห็นว่าเกิดไฟลุกไหม้ที่ล้อจึงเอาถังดับเพลิงที่ติดรถมาดับแต่เอาไม่อยู่จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยดับ สุดท้ายไม่ทันยางเสียหายทั้งหมด 6 เส้นและเปลวไฟลุกลามขึ้นตัวแท็งก์บางส่วน ขณะที่สลัดหัวลากหนีจอดห่างไปประมาณ 100 เมตรเพื่อความปลอดภัย