วันที่ 2 ส.ค.2567 นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 21 สส.ของพรรคแสดงเจตจำนงค์เข้าร่วมรัฐบาลว่า   ยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยที่จะไปร่วมรัฐบาล ตนเองยังไม่ทราบเรื่อง ข่าวก็คือข่าว ในข้อเท็จจริงยังไม่มีการพูดคุยกัน  

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ามีการตกลงเรื่องกระทรวงกันแล้วด้วย  นายชัยชนะ กล่าวว่า ไม่มีข่าว และใครไปตกลง ขอให้ยืนยันมา ตนเป็นกรรมการบริหารพรรคปชป. ยังไม่ทราบเลยว่า ใครไปตกลง โดยหลักการ พรรคปชป. ต้องมีการเทียบเชิญก่อน ซึ่งรัฐบาลยังไม่มีการเทียบเชิญ  ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ตนไปพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์นั้น ตนขอปฏิเสธว่าไม่จริง ที่ตนไปพูดคุยกับร.อ.ธรรมนัส เพราะเจอกันปกติอยู่แล้ว แต่ไม่มีพูดคุยกันในเรื่องการร่วมรัฐบาล   

เมื่อถามย้ำว่า ถ้ารัฐบาลมีการส่งเทียบเชิญนั้น นายชัยชนะ ระบุว่า ยังไม่เกิดขึ้น และรัฐบาลยังไม่มีการเทียบเชิญ ถ้ามีการเทียบเชิญก็จะมีการหารือกันภายในพรรค และใช้มติของพรรค เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ผู้บริหารของพรรคได้พบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ 2 ครั้งที่ฮ่องกงและรับปากว่า หากพรรคปชป. มีเสียงที่เป็นเอกภาพจะรับเข้าร่วมรัฐบาลโดยดีลที่ 2 เก้าอี้คือ 1 ว่าการ และ1 รมช. แต่เนื่องจากยังมีความเห็นต่างในพรรคระหว่างกลุ่มของอดีตผู้นำพรรค กับทีมผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบันที่คุมเสียงสส.พรรคส่วนใหญ่ 21 เสียง ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ยังคงต้องการร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะผู้บริหารพรรคที่เป็นแกนนำสส.ในสภาคนหนึ่งถึงขนาดคุยกับคนสนิทว่า ไปพบนายมา ท่านรับปากว่า ได้ทำงานร่วมกัน มีกระทรวงให้แน่

อีกทั้งในช่วงการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568  วาระที่ 1  มีผู้ใหญ่ของพรรคแนะนำให้สส.ใหม่ ทำหน้าที่อภิปรายชำแหละร่างพ.ร.บ.งบฯปี68 ของรัฐบาล โดยมีการให้ข้อมูลในเรื่องต่างๆมาให้ สส.ใหม่คนหนึ่งเพื่ออภิปราย แต่สส. คนดังกล่าวกลับฉีกทิ้งในห้องน้ำ พร้อมเอ่ยปากว่า  พี่ชายกำลังจะได้เป็น รัฐมนตรี แล้วจะอภิปรายไปทำไม ซึ่งเป็นเรื่องที่สส.ในพรรคพูดคุยกันโดยรู้กันว่า มีการเจรจาเรื่องร่วมรัฐบาลกันตลอด หากสถานการณ์การเมือง มีการเปลี่ยนแปลง อาทิ กรณีการยุบพรรคก้าวไกล และกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัย ตามคำร้องของ 40 สว. ที่ยื่นให้ศาลชี้ขาดกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จงใจปฏิบัติฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ที่แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

โดยกรณีแรก คนในพรรคต่างวิเคราะห์ว่า หากมีการยุบพรรคก้าวไกลจริง พรรคร่วมรัฐบาลพรรคหลักใช้พลังดูด สส.เขตของพรรคก้าวไกลให้ย้ายมาร่วมสังกัดพรรครัฐบาล จะมีการเปลี่ยนแปลงถึงโควตารัฐมนตรี ที่ต้องมีการขยับปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับจำนวนสส.ใหม่ที่เพิ่มขึ้น และโยงถึงการดีลให้เข้าร่วมรัฐบาลของพรรคปชป. ในอนาคตอันใกล้ด้วย