SET ปิดเช้า 1,315.86 จุด ลดลง 6.89 จุด (-0.52%) มูลค่าซื้อขายราว 16,008.90 ล้านบาท การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีปรับตัวลงตามภูมิภาค ทำระดับสูงสุด 1,318.26 จุด และต่ำสุด 1,312.50 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับตัวลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาค รับ 3 ประเด็นกดดัน ได้แก่ 1.ความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลง หลังอัตราการว่างงานสูงกว่าคาด สร้างความกังวลว่าหากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ย จะตามมาด้วยภาวะเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยหรือไม่ 2. ระยะสั้นตลาดรับข่าวบวกเฟดลดดอกเบี้ยไปเกือบ 100% แล้ว 3. ความผันผวนจากการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อคืนเงินกู้สกุลเงินเยน หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นดอกเบี้ย และส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกระลอก อย่างไรก็ตาม ยังมองตลาดในระยะกลาง-ยาวอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากระยะสั้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนส.ค.นี้ ไทยยังมีแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศ ขณะที่ต่างประเทศ นักลงทุนโยกเงินจากกลุ่มเทคโนโลยีที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นแรงไปยังตราสารหนี้หรือหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง เช่น กลุ่มไฟฟ้า กองรีท และหุ้นที่มีผลประกอบการดี ก่อนจะโยกกลับมาที่ Emerging Market อีกครั้ง
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดฯ ยังซึมลง ให้แนวรับที่ 1,310-1,300 จุด และแนวต้าน 1,320 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
GULF มูลค่าการซื้อขาย 948.15 ล้านบาท ปิดที่ 48.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
DELAT มูลค่าการซื้อขาย 924.88 ล้านบาท ปิดที่ 103.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
MINT มูลค่าการซื้อขาย 633.03 ล้านบาท ปิดที่ 27.75 บาท ลดลง 1.25 บาท
BCP มูลค่าการซื้อขาย 614.36 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 465.79 ล้านบาท ปิดที่ 56.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
#หุ้นไทย #ข่าววันนี้ #ประชุมเฟด #ลดดอกเบี้ย #SET