วันที่ 2 ก.ค. 2567  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขออนุญาตศาลเดินทางไปดูไบ เพื่อรักษาตัว จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่มั่นใจสถานการณ์การเมืองช่วงเดือนส.ค.ว่า ไม่แน่ใจ เพราะอ่านเพียงแต่ข่าวตามหนังสือพิมพ์ ว่านายทักษิณจะไปพบแพทย์ แต่ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากแพทย์ในประเทศไทยมีอยู่แล้ว และก็เข้าใจว่าแพทย์ไทยมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่า ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองเดือน ส.ค. ใช่หรือไม่ เนื่องจากจะมีคดีสำคัญ จนอาจทำให้นายทักษิณ ต้องไปตั้งหลัก นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่น่าเกี่ยวกัน เพราะวันที่ 7 ส.ค. เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล และวันที่ 14 ส.ค.ก็เป็นเรื่องของตน ส่วนนายทักษิณก็ยืนยันว่าจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในคดีมาตรา 112 และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะบุตรสาว ก็ออกมายืนยันว่าไม่ได้มีความตั้งใจว่าจะไปตั้งหลักต่างประเทศ ซึ่งประเด็นดังกล่าวนายทักษิณ ระบุว่าจะออกไปเรื่องสุขภาพ แต่เรื่องอื่นไม่แน่ใจ ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ว่าสถานการณ์ทางการเมืองช่วงเดือนส.ค.มีความน่าเป็นห่วงได้ประเมินอะไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตามที่ตนบอกไปเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ว่าได้ส่งคำแถลงปิดคดีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ส่วนเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือ ปัญหาบ้านเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ 

เมื่อถามย้ำว่า หากวันที่ 14 ส.ค.คดีของนายกฯ ไม่มีปัญหาจะมีการปรับ ครม. หรือไม่ นายกฯ ระบุว่า ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย อย่างที่บอกในคดีของตน ในส่วนของตนก็จบแล้ว เพราะศาลไม่ได้เรียกขอข้อมูลเพิ่มเติมมา ซึ่งตนได้ทำคำแถลงปิดคดีไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้ก็ต้องดูเรื่องปัญหาบ้านเมืองอย่างเดียว ตนไม่อยากคิดไปไกล ขนาดไหนอย่างไร ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. ตนเชื่อว่าตลอดระยะเวลาที่เหลือ 3 ปี แน่นอนว่าอาจมีการปรับเปลี่ยนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่มีการโยงกับวันที่ 14 ส.ค. นี้ หรือกรณีของพรรคก้าวไกลที่มีการตัดสินวันที่ 7 ส.ค.นี้ ฉะนั้นขออย่าไปโยง เพราะจะทำให้เกิดความซับซ้อนเข้าใจผิด  และเบี่ยงเบนความสนใจบางเรื่องที่เราต้องทำ ตนไม่อยากให้รัฐมนตรีที่ทำงานอย่างเต็มไขว้เขวในเรื่องนี้มาทำงานกันดีกว่า 

เมื่อถามต่อว่า มีความหวาดระแวงหรือไม่ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวการปรับเปลี่ยนตัวจะมีคนในรัฐบาล เข้ามาแทนหากนายกฯ หากศาลตัดสินให้พ้นจากตำแหน่ง นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องการเมืองเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อย่างที่หลายพรรคการเมืองบอก 314 เสียงก็แน่นอยู่แล้ว ถ้ามัวแต่พะวักพะวังในเรื่องที่อาจจะ อย่างที่บอกก็ไม่อยากให้ทุกคนที่ดูแลบ้านเมืองมาไขว้เขวกับเรื่องนี้

เมื่อถามย้ำว่า จาก 3 คดีช่วงเดือนนี้ ทำให้เกิดกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกฯ กล่าวว่า มีการพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าว ยังคงทำงานกันอย่างเต็มที่ เมื่อคืนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็เดินทางไปร่วมงานสวดอภิธรรมศพของมารดาตน ซึ่งมีการพูดคุยถึงปัญหาบ้านเมืองและการเตรียมพร้อมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันที่ 3 ก.ค.โดยวันนี้ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางล่วงหน้าไปวันที่ 1 ส.ค. แล้ว และได้มีการเชิญ ผบ.ทร.มาหารือก่อนลงใต้ ช่วงเที่ยงวันนี้

เมื่อถามว่า การปรับ ครม. พรรคร่วมรัฐบาลเดิมยังอยู่ครบหรือไม่ หรือจะมีการนำพรรคเก่าออกและเอาพรรคใหม่เข้ามา นายกฯ ปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว

เมื่อถามย้ำว่า การดึงเสียงมาเพิ่มจากพรรคประชาธิปัตย์ให้ 314 เสียงแน่นขึ้นอีก จำเป็นหรือไม่ นายกฯ ส่ายศรีษะเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้คิดเลย โยงเรื่องปรับ ครม. ดึงคนมาเสียบ และการดึงคนออก ดึงคนเข้าไม่เกี่ยวกับตอนนี้ วันนี้ปัญหาเยอะเหลือเกินเราต้องมาช่วยเหลือกันไป ก็เห็นอยู่แล้วว่าปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้างในทุกวัน หน้าที่ของรัฐบาลก็ต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ต่อไป

#นายกฯ #ศาลรัฐธรรมนูญ #ทักษิณชินวัตร #ข่าววันนี้ #ดูไบ