บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในฐานะหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเปิดจุดบริการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ไม่มีสมาร์ตโฟน หรือผู้ที่มีสมาร์ตโฟน  แต่ต้องการความช่วยเหลือในการลงทะเบียน และยืนยันตัวตนเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ณ ไปรษณีย์ 1,200 แห่งทั่วประเทศ (ยกเว้นไปรษณีย์อนุญาต และร้านไปรษณีย์ไทย) ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 15 กันยายน 2567

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่ากระทรวงดีอี เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของการสนับสนุนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยได้มอบหมายให้ไปรษณีย์ไทยเปิดจุดรับลงทะเบียนให้ข้อมูลกับประชาชน อีกทั้ง ยังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของไปรษณีย์ท่าอากาศยานดอนเมือง ในการช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ซึ่งขณะนี้ไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่งทั่วประเทศ มีความพร้อมเป็นอย่างมาก ซึ่งกระทรวงดีอีในฐานะหน่วยงานกำกับได้ให้ความสำคัญกับรูปแบบการอำนวยความสะดวกกับประชาชนทั้งในช่องทางออฟไลน์ - ออนไลน์ เพื่อรองรับกลุ่มที่มีสมาร์ตโฟน และผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟน รวมทั้งคำนึงถึงความแม่นยำและความปลอดภัยเป็นสำคัญ  เพื่อให้คนไทยได้รับความสะดวกในการรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตในครั้งนี้

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาล สำหรับ “โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต” ล่าสุดไปรษณีย์ไทยในฐานะหน่วยงานด้านการสื่อสารและขนส่งของชาติ ภายใต้สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้จัดตั้งจุดแนะนำข้อมูลและให้บริการรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ณ ไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่งทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ไม่มีสมาร์ตโฟน หรือมีสมาร์ตโฟนแต่ต้องการความช่วยเหลือในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ สามารถวอล์คอินเข้ารับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ พร้อมลงทะเบียน จนถึงขั้นตอนการยืนยันตัวตน (KYC) ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ถือเป็นการใช้ความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายที่ไปรษณีย์ และเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทยที่มีศักยภาพหลากหลายด้านมาต่อยอดประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับทุกภาคส่วน 

สำหรับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ทางรัฐบาลได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วม ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 15 กันยายน 2567 โดยจะสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ในช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2567 ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้ารับคำแนะนำ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ *ยกเว้นไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านไปรษณีย์ไทย สามารถตรวจสอบรายชื่อที่ทำการฯ ที่ให้บริการได้ที่เว็บไซต์ thailandpost.co.th

ทั้งนี้ไปรษณีย์ไทยพร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคม และมุ่งอำนวยความสะดวกให้กับภาครัฐ ประชาชน และเอกชนในการใช้ทรัพยากรอันโดดเด่น เพื่อรองรับการดำเนินงานในมิติต่างๆ โดยปัจจุบันมีความพร้อมทั้งในด้านจุดให้บริการกว่า 50,000 แห่ง บุรุษไปรษณีย์กว่า 25,000 คน ระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพที่เข้าถึงได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมทั้งดิจิทัลโซลูชันที่ทันสมัย สอดรับกับวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันที่กำลัง  เปลี่ยนแปลงและถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี 

#ทางรัฐ #ข่าววันนี้ #ไปรษณีย์ไทย #ดิจิทัลวอลเล็ต