เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 ส.ค.มีนักมวยสากลทีมชาติไทยแข่งขัน 2 คู่ ในรอบ16คน โดยรุ่น 50 กก. หญิง "หวาน" จุฑามาศ รักสัตย์ กำปั้นสาวทีมชาติไทย เต็ง 8 ของรายการ พบ ซาบีนา โบโบคูโลวา จากอุซเบกิสถาน ผลปรากฎว่า จุฑามาศ รักสัตย์ คุมเกมการชกได้เหนือกว่าชัดเจนทั้ง 3 ยก เป็นฝ่ายชนะเป็นเอกฉันท์ 5-0 เสียง  ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ พบ อู๋ หยู่ เต็งหนึ่งของรุ่นจากจีน วันที่ 3 ส.ค.2567

ขณะที่รุ่น 66กก.หญิง  จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ดีกรีเหรียญเงินและเหรียญทองแดง ชิงแชมป์โลก และเหรียญเงินเอเชียนเกมส์ ปี 2023 พบกับ บริจิตต์ เอ็มบาบี วัย 22 ปี จากคองโก ดีกรีหรียญทองแดงศึกแชมป์แอฟริกาในปี 2022

ผลปรากฎว่า นักชกสาวไทยเป็นรองโดนนับในยกแรก แต่รวบรวมสติและสมาธิ หันมาตีตื้นในยกที่สองและต้องมาชิงดำในยกสุดท้าย จันทร์แจ่ม ทำได้ดีกว่า และพลิกกลับมาเอาชนะ บรีกิตต์ เอ็มบาบี จาก ดีอาร์ คองโก 4-1 เสียง ผ่านเข้ารอบก่อนรองฯ พบกับ บูเซนาซ ซือร์เมเลนี มือ 1 ของรุ่นจากตุรกี วันที่ 3 ส.ค.นี้

 ด้านพ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าสต๊าฟโค้ชทีมกำปั้นหญิงทีมชาติไทย เผยว่าพอใจการชกของทั้งคู่ในวันนี้ ทั้งคู่ทำได้ดีเกินคาด ส่วนรอบก่อนรองฯหรือรอบชิงเหรียญทองแดง เจอกับคู่แข่งที่เป็นตัวเต็งของรุ่น โอกาส 50-50 แต่เชื่อมั่นว่าทั้งจันทร์แจ่มและจุฑามาศ น่าจะทำได้ดีเหมือนวันนี้ก็มีลุ้นเหรียญทั้งคู่ โดยรอบ 8 คน จะให้ทั้งสองคนเน้นการตั้งรับให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงเรื่องสปีดหมัดที่ต้องเร็วและขยันต่อยมากๆ ไม่เป็นเป้านิ่ง

นอกจากนี้ช่วงคืนนี้ เวลา 02.20น.มีนักชกไทยลงแข่งขันอีก 1 คน คือรุ่น 63.5 กก. บรรจง สินศิริ  จะพบ  อีริสลันดี้ อัลวาเรซ บอร์เกส จาก คิวบา ในรอบก่อนรองชนะเลิศ