ตลาดงานประมูลภาครัฐเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลัง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐเร่งเบิกจ่ายงบ “ค้างท่อ” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ควบคู่ไปกับการเร่งดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง

ถือเป็นความหวังของผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจเป็นคู่ค้าภาครัฐ และบริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน) (SPREME) ผู้นำธุรกิจทางด้านเทคโนโลยี สารสนเทศและสื่อสาร โดยเป็นผู้ออกแบบ จัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ ที่ใช้ในงานเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร (System Integrator) ซึ่งมีความรู้ความชำนาญประมูลงานและดำเนินงานโครงการระบบสารสนเทศกับภาครัฐมากว่า 20 ปี โดยกลุ่มลูกค้า SPREME เป็นกลุ่มลูกค้าภาครัฐ และกลุ่มลูกค้าเอกชน ประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีความรู้ ความสามารถในการเข้าประมูลงานกับหน่วยงานภาครัฐ

นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน) (SPREME) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง SPREME เตรียมเข้าร่วมประมูลงานโครงการภาครัฐมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นงานที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับงานประมูลอย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ที่ผ่านมา และมีโอกาสได้งานมากถึง 60-70% เพื่อเข้ามาเติมงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่มีอยู่ประมาณ 550 ล้านบาท มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันรายได้ในปีนี้เติบโต 15% ตามเป้าหมาย

“หลังการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น และมุ่งมั่นเป็นผู้นำธุรกิจ System Integrator ที่เติบโตอย่างมั่นคง”

โดยปัจจุบัน SPREME  มีฐานะการเงินและกระแสเงินสดแข็งแกร่ง มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ประมาณ 0.96 เท่า ไม่มีหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการเมกะโปรเจคมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ที่คาดว่าจะเปิดประมูลในช่วงปลายปีนี้ และคาดว่าจะมีความชัดเจนในต้นปี 2568 ซึ่งจะทำให้ Backlog เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPREME กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจ และสร้างการเติบโตในอนาคต บริษัทฯ มีแผนเข้าลงทุนซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา โดยเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ System Integrator ซึ่งเป็นธุรกิจหลักและยังรวมถึงธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เป็นธุรกิจเมกะเทรนด์ รองรับแผนเข้ารุกตลาดประมูลงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และงานประมูลภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสาธารณะ (Public Safety) ซึ่งจะช่วยผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต

ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงิน และโอกาสการเติบโต จากการร่วมประมูลงานภาครัฐ และงานเมกะโปรเจคที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี รวมถึงแผนเข้าซื้อกิจการที่จะสร้าง New S-Curve ให้กับ SPREME ในฐานะหุ้น Hybrid ที่เป็นทั้ง Growth Stock และ Dividend Stock สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน

#SPREME #ประมูลงานรัฐ #ข่าววันนี้ #เบิกจ่ายงบ