“ทวี สอดส่อง”ลงพื้นที่นครราชสีมาจัด “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ครั้งที่ 42 มุ่งช่วยเหลือประชาชน ปลดภาระผู้ค้ำ ขยายระยะเวลาการผ่อน ปรับลำดับการชำระสถาบันการเงิน ผ่อนผันการชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดดอกเบี้ย ลดค่างวดรายเดือน งดฟ้องดำเนินคดี」

วันที่ 31 กรกฏาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก โคราช ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซนทรัลโคราช ตําบลในเมือง อําเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ว่า เมื่อเวลา 10.30 น. พันตํารวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ครั้งที่ 42 จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นางสาวเอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายเสกสรร สุขแสง อธิบดีกรมบังคับคดี นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมในระดับพื้นที่ และสถาบันทางการเงินภาคีเครือข่าย และประชาชน เข้าร่วมกว่า 1,000 คน จาก 32 อำเภอ ในจังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมให้การต้อนรับ

โอกาส​นี้ พันตํารวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า หนี้ครัวเรือน คือทุกข์ของประชาชน รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งระบบให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน อย่างเร่งด่วน ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยฯ ทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนผู้เข้าร่วมงานได้รับประโยชน์ในกรณีก่อนฟ้อง กยศ. ทั้งปลดภาระผู้ค้ำ ขยายระยะเวลาการผ่อนปรับลำดับการชำระสถาบันการเงินอื่น ๆ ผ่อนผันการชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดดอกเบี้ย ลดค่างวดรายเดือน งดฟ้องดำเนินคดี และรับเงื่อนไขปลดผู้ค้ำประกัน สำหรับในส่วนของชั้นบังคับคดี หรือหลังคำพิพากษาจะได้รับการผ่อนชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดจำนวนเงินผ่อนชำระหนี้ งดยึดทรัพย์ งดขายทอดตลาดลูกหนี้จะไม่ถูกบังคับคดี

โดยในจังหวัดนครราชสีมา ประชาชนจะประสบปัญหาสภาวะหนี้สินครัวเรือน และหนี้สินการเกษตร จึงมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ซึ่งภายหลังจากที่เข้าร่วมแก้ไขหนี้สินให้เป็นไปอย่างยั่งยืนและไม่กลับมาเป็นหนี้ซ้ำอีก

จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย​ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และคณะ ได้ร่วมพบปะพูดคุยและให้กำลังใจประชาชนที่มาร่วมไกล่เกลี่ยฯ ภายในงาน

ทั้งนี้​ สำหรับการจัดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ในครั้งนี้ ได้เชิญลูกหนี้เข้าร่วมงาน จำนวน​กว่า 5,154 ราย แยกเป็นก่อนฟ้อง จำนวน 2,600 ราย และหลังศาลมีคำพิพากษา จำนวน 2,554 ราย รวมทุนทรัพย์ จำนวน​กว่า 1,305 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หนี้เช่าซื้อรถยนต์ หนี้สินข้าราชการ หนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ผิดนัดชำระหนี้เข้าเกณฑ์จะถูกฟ้องดำเนินคดีหรือไม่มีกำลังผ่อนชำระตามสัญญา ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และรู้สิทธิตามกฎหมาย เข้าถึงความยุติธรรม รวมถึงสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผน และสร้างวินัยทางการเงินให้ประชาชนเป็นเกราะป้องกันปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน โดยลูกหนี้จะได้รับโปรโมชั่น นอกจากจะไม่ถูกฟ้องคดี ไม่ถูกยึดทรัพย์ ไม่ถูกขายทอดตลาดแล้วจะได้รับสิทธิพิเศษส่วนลดจบหนี้ ส่วนลดดอกเบี้ย ลดค่างวดและขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย นอกจาก​นี้ ภายในงานมีการให้บริการต่าง ๆ มายมาย เช่น การเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย และการสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผน และสร้างวินัยทางการเงิน การจัดนิทรรศการประชาสัมพันธ์ ให้คำปรึกษาทางกฎหมาย และการให้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ทั้งก่อนฟ้องและหลังศาลมีคำพิพากษา โดยมีภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท จำนวน 11 สถาบัน ประกอบด้วย 1)​ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 2)​ ธนาคารออมสิน และธนาคารออมสินเขตควบคุมและบริหารหนี้ภาค 13 3)​ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และสาขาจังหวัดนครราชสีมา 4)​ ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) และสาขาจังหวัดนครราชสีมา 5)​ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดนครราชาสีมา 6)​ บริษัท เจเอ็มทเน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซส จำกัด 7)​ บริษัท บริหารสินทรัพย์เจ จํากัด 8)​ บริษัท บริหารสินทรัพย์เจ เค จํากัด 9) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10) สํานักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา และ 11)​ สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา