วันที่ 31 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ไปประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
โดยศาลมีคำสั่งนัดไต่สวนคำร้องของนายทักษิณ วันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เเละมีคำสั่งในวันเดียวกัน โดยนายทักษิณ จำเลย ทนายจำเลยมาศาล
ศาลพิเคราะห์เห็นว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาและห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ซึ่งจำเลยมีความประสงค์เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไป พำนักที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 1-16 สิงหาคม 2567 เพื่อพบแพทย์ซึ่งเคยตรวจรักษาอาการป่วยของจำเลยเกี่ยวกับปอดอักเสบเรื้อรัง ระบบหายใจและหลอดเลือดหัวใจ เอ็นไหล่ขวาฉีกขาด และหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน ในสถานพยาบาล ที่ประเทศสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ในวันที่ 2 เเละ 8 สิงหาคม 2567 โดยช่วงเวลาที่จำเลยพำนักอยู่ ณ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จำเลยยังมีนัดหมายกับบุคคลสำคัญหลายคน เกี่ยวด้วยภารกิจส่วนตัวของจำเลยหลายเรื่อง โดยจำเลยจะเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรก่อนวันนัดตรวจพยานหลักฐานซึ่งศาลนัดไว้ในวันที่ 19 สิงหาคม 2567 เวลา 09.00 น.
เห็นว่า แม้จำเลยอ้างตนเองเป็นพยานเบิกความยืนยันถึงความจำเป็นที่ต้องเดินทางออกนอกราชอามาจักร โดยมีเอกสารหลักฐานจากแพทย์สนับสนุน และนัดพบบุคคลสำคัญหลายคน โดยช่วงเวลาที่จำเลยพำนักอยู่ ณ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นช่วงเวลาก่อนกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานก็ตาม แต่อาการป่วยของจำเลยเป็นโรคที่เกิดแก่บุคคลทั่วไป และแพทย์ในประเทศไทย ตรวจรักษาเป็นประจำอยู่แล้ว การเดินทางไปพบบุคคลสำคัญของจำเลยเป็นเรื่องส่วนตัวของจำเลย
ทั้งไม่มีพยานหลักฐานยืนยันชัดแจ้งถึงความจำเป็นดังกล่าว ประกอบกับช่วงระยะเวลาที่เดินทางใกล้กับวันนัดตรวจพยานหลักฐานในชั้นนี้จึงไม่สมควรอนุญาตให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรยกคำร้อง