วันที่ 31 ก.ค.67 นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ หลังจากที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ในเชิงตำหนินักวิชาการ นักวิเคราะห์ และโดยเฉพาะเหมือนเป็นการตำหนิสื่อมวลชน เรื่องนำเสนอแต่ข่าวดราม่าไม่สนใจกกต. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคก้าวไกลทำถูกต้องหรือไม่ สะท้อนภาพไม่มีใครสนใจกฎหมาย และการยุบพรรคกลายเป็นเครื่องมือของนิติสงครามว่า การที่นายปิยบุตร จะชี้แจงลงรายละเอียดถึงข้อต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกล ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่ ให้เป็นการต่อสู้คดีอย่างถึงที่สุดตามกระบวนการยุติธรรม
“แต่การออกมาตำหนินักวิชาการ นักวิเคราะห์ รวมถึงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เป็นเหมือนภาษิตไทยที่ว่า ขี้แพ้ชวนตีหรือ พาลไปทั่ว ไม่เลือกหน้า ตนมั่นใจว่า พี่น้องสื่อมวลชนนั้น ต่างก็ทำหน้าที่นำเสนอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อย่างตรงไปตรงมา การสัมภาษณ์สส.ก้าวไกลถึงคดีนี้ ก็เพื่อไม่ให้เกิดการก้าวล่วงอำนาจศาลอย่างไม่สมควร เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว พรรคก้าวไกลต่างหาก ควรระวังการก้าวล่วงอำนาจศาล” นายธนกร กล่าว
เมื่อถามว่า ในช่วงที่ผ่านมาดูเหมือนแกนนำพรรคก้าวไกลพร้อมใจกันออกมา แสดงความเห็นในแนวต่อว่ากระบวนการ ไม่เป็นธรรมนั้น นายธนกร มองว่า การที่นายปิยบุตร รวมถึงแกนนำพรรคก้าวไกล ออกมาพูดแสดงความเห็นในเชิงลบต่อกระบวนการของกกต.และศาลรัฐธรรมนูญก่อนวันตัดสินนั้น ถือเป็นการก้าวล่วงศาลอย่างชัดเจนหรือไม่ ไม่เพียงเท่านั้น พรรคก้าวไกลยังนัดรวมพลแฟนคลับเตรียมจัดกิจกรรมต่างๆ ในวันที่ฟังผลตัดสินคดีด้วย จะให้สังคมคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ จึงขอถามนายปิยบุตร ว่ามีเจตนาใดแอบแฝงเบื้องหลังหรือไม่ และขอให้หยุดดิสเครดิตกระบวนการยุติธรรม หากไม่ได้ทำผิดอาจจะรอดไม่ต้องถูกยุบพรรคก็เป็นได้ จึงไม่ควรตีโพยตีพาย ออกมาตีตนไปก่อนไข้แบบนี้
“ขอให้ตั้งสติและเลิกใช้คำว่านิติสงคราม เสียที เพราะไม่มีใครใช้กฎหมายเพื่อกลั่นแกล้งใครได้ ถ้าคุณไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ใครหน้าไหนก็ทำอะไรคุณไม่ได้ ประเทศไทยเรายึดตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อยู่กันด้วยหลักการกฎหมาย ยืนบนความถูกต้อง ไม่ใช่ความถูกใจของคนบางกลุ่ม บางพรรค เรามีรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน ขอให้พรรคก้าวไกลและนายปิยบุตร ยอมรับความจริงตรงนี้ด้วย” นายธนกร กล่าว