รวบสาวพิจิตรตุ๋นลงทุนรีวิวสินค้า เหยื่อกว่า 10 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 3 แสนบาท พบมีหมายจับอีก 2 คดี
เมื่อวันที่ 30 ก.ค.พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม สั่งการให้ พ.ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์วงษ์ สว.สส.ฯ, จ.ส.ต.เอกยุทธ ปล้องคง, จ.ส.ต.ธวัชชัย ละอองชัย, จ.ส.ต.สมภพ เที่ยงธรรม, ส.ต.อ.ณัฐพงษ์ พรหมสุข และส.ต.อ.ประทานพร เชษขุนทด เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม จับกุมน.ส.สมพร หรือหนึ่ง เทศขำ อายุ 28 ปี ชาว จ.พิจิตร ผู้ต้องหา 2 หมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 497/2567 ลงวันที่ 17 มิ.ย.67 ฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ฯ ” และศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.310/2567 ลงวันที่ 24 มิ.ย.67 ฐาน “เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก หรือบัญชีเงินอิเล็กพรอนิกส์โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่านำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ฯ ” โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 216 หมู่ที่ 2 ต.ไทรโรงโขน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร
สืบเนื่องจากผู้เสียหายติดต่อข้อความทางแอป ฯ ไลน์กับผู้ใช้ชื่อ “พรอย โยธิน” และได้ชักชวนให้ผู้เสียหายโปรโมทสินค้าตอบแชตลูกค้าโดยบอกว่ามีค่าตอบแทนสูง จากนั้นได้ส่งลิงก์เว็บให้ผู้เสียหายเข้าไปสมัครที่เว็บชื่อ “https://Siam- team.com/xml/index.thm#/login เมื่อผู้เสียหายได้กดเข้าไปในเว็บไซด์ดังกล่าว ซึ่งแอดมินได้ชักชวนให้ร่วมลงทุนรีวิวสินค้า บอกว่าได้ผลตอบแทนดี ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงสนใจลงทุน จากนั้นถูกหลอกให้โอนเงินร่วมลงทุนไปยังบัญชีธนาคารชื่อบัญชี นางสาวสมพรฯ ผู้ต้องหา โดยผู้เสียหายโอนไปเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น เกือบ 200,000 บาท จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม กระทั่งชุดสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาหลบซ่อนตัวอยู่ จ.พิจิตร จึงนำกำลังไปจับกุมไว้ได้ โดยนางสาวสมพรฯ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง
จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายอีกกว่า 10 รายในลักษณะเดียวกัน ท้องที่ สภ.ภูเก็ต ยอดเสียหาย เกือบ 3 แสนบาท ซึ่งถูกออกหมายจับไว้ ข้อหา 2. “เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่านำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและเป็นผู้สนับสนุนการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.310/2567 ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2567 นอกจากนี้ยังตรวจพบในระบบเว็บ www.blacklistseller.com มีผู้เสียหายอีก 6 ราย ยอดเงิน อีกกว่า 3 แสนบาท ถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป