มอบตัวแล้ว ! สาวขับเก๋งชนคู่กรณีกระโดดเกาะฝากระโปรงรถ อ้างกินยานอนหลับ-ยืมรถเพื่อนมา ไม่มีเงินชดใช้คู่กรณีเลยหนี ถูกแจ้ง 2 ข้อหา

จากกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ "ก้อง อย่างยัน" โพสต์คลิปวีดีโอความยาว 7 นาที พร้อมของข้อความระบุว่า "ชนแล้วหนี แยกวชิระ มุ่งหน้า สะพานกรุงธน เช้านี้ 24/7/67 #ชนแล้วหนี #สามเสน #บางพลัด #อย่างยัน " โดยวิดีโอดังกล่าวลักษณะเป็นภาพผู้หญิงรายหนึ่ง พยายามกระโดดเกาะฝากระโปรงหน้ารถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า บรีโอ้ สีขาว ทะเบียน กบ 9674 กาญจนบุรีโดยมีผู้หญิงเป็นคนขับเช่นกัน ซึ่งเก๋งสีขาว พยายามขับหลบหนี จากแยกวชิร ถนนสุโขทัย แขวงและเขตดุสิต กทม. มุ่งหน้าไปเส้นทางสะพานกรุงธน โดยลากหญิงผู้เสียหายไปกับฝากระโปรงรถ โดยมีกลุ่มรถ จยย.ไรเดอร์ พยายามช่วยกันขี่รถตามเก๋งคันดังกล่าว โดยหญิงคนขับรถเก๋ง ลงมาโต้เถียงกับ สาวที่เกาะอยู่ฝากระโปรงหน้ารถว่า "ไม่ได้ชน" แต่หญิงผู้เสียหายก็ได้ชี้ไปที่กันชนหน้ารถเก๋งสีขาว พร้อมกับตะโกนว่า "หลักฐานมี.." โดยสภาพกันชนหน้ารถเก๋งหลุด มีรอยเฉี่ยวชน และตะโกนขอความช่วยเหลือจากประชาชนบริเวณดังกล่าว ก่อนที่รถเก๋งคันดังกล่าวจะขับหลบหนีไปทันที เหตุเกิดเมื่อวันที่ (24 ก.ค.) ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา14.00 น.วันที่ 30 ก.ค. พ.ต.อ.ณธัชพงศ์ กิรัมย์ ผกก.สน.ดุสิต สั่งการให้ พ.ต.ท.ชัยธัช เชียงธา รอง ผกก.สส.สน.ดุสิต พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.ดุสิต ประสานให้ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้ก่อเหตุ เดินทางจากภูมิลำเนา จ.กาญจนบุรี เข้ามอบตัว พร้อมรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า บริโอ้ สีขาว ทะเบียน กบ 9674 กาญจนบุรี คันก่อเหตุ หลังถูกเจ้าหน้าที่ถูกกดดัน ทางเจ้าของรถและญาติ เพื่อติดตามให้หญิงคนดังกล่าวมาเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม 

สอบสวนเบื้องต้น น.ส.เอ (นามสมมุติ) ให้การว่า วันเกิดเหตุได้ยืมรถของเพื่อนมาใช้ หลังจากเกิดเหตุเฉี่ยวชน กลัวว่าตนเองจะต้องชดใช้ค่าเสียหายมาก ประกอบมีอาการตกใจ กลัวจะไม่ปลอดภัยและก่อนหน้านั้นได้กินยานอนหลับจำนวนมากจนมีอาการเบลอ จึงเกิดเหตุดังกล่าว

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนแจ้ง 2 ข้อหา " ทำร้ายร่างกาย และขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิต หรือร่างกายของผู้อื่น" พร้อมตรวจยึดรถเก๋งคันดังกล่าว เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ ก่อนปล่อยตัวชั่วคราว และจะนัดให้ผู้ก่อเหตุเข้ามาพบภายหลัง เนื่องจากเหตุเกิดใน 2 ท้องที่ โดยในกรณีรถชนแล้วหนี เป็นท้องที่ สน.พญาไท แต่ผู้เสียหาย ได้แจ้งความไว้ที่ สน.ดุสิต จึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนนัดมาสอบปากคำ และแจ้งข้อหาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.