ออกมาส่งเสียงเพรียกเตือนด้วยความวิตกกังวล
สำหรับ การฟื้นคืนชีพของขบวนการก่อการร้าย และกลุ่มหัวรุนแรงต่างๆ ที่โลกเรากำลังเผชิญ และมีแนวโน้มว่า จะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นกับความหฤโหดของพวกวายร้ายเหล่านี้อีกครั้ง เหมือนกับที่เคยประสบเมื่อครั้งที่ “ขบวนการก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรงอัลกออิดะฮ์” และ “กลุ่มรัฐอิสลาม” หรือ “ไอเอส” หรือที่หลายคนเรียกว่า “ไอซิส” เขย่าโลกในช่วงหลายปีก่อน
โดยผู้ที่ออกมาเตือนก็เป็นระดับผู้แทนของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ที่ประจำการอยู่ในซีเรีย ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่อยู่ในสภาพของสงครามกลางเมือง จนระบบต่างๆ ที่ขับเคลื่อนและป้องกันประเทศล่มสลาย จนกลายเป็นพื้นที่ให้กลุ่มก่อการร้ายขบวนการต่างๆ ได้ใช้เป็นแหล่งเพาะเชื้อ
ยกตัวอย่างเช่น “กลุ่มรัฐอิสลาม” หรือ “ไอเอส” หรือ “ไอซิส” ที่ใช้พื้นที่ภาคตะวันออกของซีเรีย คาบเกี่ยวพรมแดนกับทางตะวันตกของอิรัก เป็นพื้นที่เคลื่อนไหวและสำแดงความมีอิทธิพลของทางกลุ่ม โดยใช้เมืองรักกา ทางตะวันออกของซีเรีย เป็นฐานใหญ่ หรือเปรียบไปก็เสมือนเป็น “เมืองหลวง” ของกลุ่มไอเอส กันเลยทีเดียว ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 2010 ก่อนที่มีการเผยแพร่อุดมการณ์ของกลุ่มไอเอส จนมีประชาชนจากหลายประเทศมาเข้าร่วม ไม่เว้นแม้แต่พลเมืองของบรรดาประเทศในทวีปยุโรปมาร่วมขบวนการ และเหล่าสมาชิกของไอเอสเหล่านั้น ก็ได้ออกปฏิบัติการก่อวินาศกรรมเขย่าโลกในประเทศทวีปต่างๆ แทบจะทั่วภูมิภาคของโลกเราในช่วงเวลานั้น
ไม่ว่าจะเป็นประเทศออสเตรเลีย ทวีปออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ถูกสมาชิกกลุ่มไอเอส เข้าไปก่อวินาศกรรม จนมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมากหลายครั้งหลายคราด้วยกัน
ส่วนที่ประเทศในทวีปยุโรป ก็ประสบกับภัยก่อการร้ายหลายประเทศด้วยกัน เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เบลเยียม และเยอรมนี ตลอดจนรัสเซีย เป็นต้น แถมมิหนำซ้ำ ภัยก่อการร้ายที่หลายๆ ประเทศในทวีปเผชิญ ก็ผจญกับปฏิบัติการก่อการร้ายหลากหลายรูปแบบสารพัด อาทิเช่น
การก่อวินาศกรรมด้วยวัตถุระเบิดในพื้นที่ชุมชน หรือสถานที่ที่มีผู้คนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก อย่างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นต้น เพื่อให้เกิดความสูญเสียทั้งในชีวิตและทรัพย์สินอย่างขนานใหญ่ เช่น กรณีผู้ก่อการร้ายซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มไอเอส ใช้วิธีระเบิดฆ่าตัวตายถล่มงานคอนเสิร์ตของ “แอเรียนา แกรนเด” ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เมื่อปี 2017 (พ.ศ. 2560) การที่กลุ่มไอเอสก่อวินาศกรรมหลายจุดด้วยวิธีกราดยิง และระเบิดฆ่าตัวตาย ในกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2015 (พ.ศ. 2558) จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนับร้อยคน
การใช้วิธีขับรถพุ่งชนผู้คนในสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านจำนวนมาก เช่น ตามตลาดร้านรวงต่างๆ อย่างกรณีที่ผู้ก่อการร้ายขับรถบรรทุกพุ่งชนผู้คนบริเวณตลาดคริสต์มาส กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายสิบคน เมื่อปี 2016 (พ.ศ. 2559) เป็นต้น
การใช้อาวุธมีดไล่ทำร้ายผู้คน เช่น เหตุการณ์ที่สมุนไอเอสใช้อาวุธมีดไล่แทงผู้คนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในประเทศเบลเยียม เมื่อปี 2016 (พ.ศ. 2559) เป็นอาทิ
โดยปฏิบัติการก่อการร้ายสองอย่างหลังนี้ คือ ขับรถพุ่งชน และใช้อาวุธมีดไล่ทำร้ายผู้คนนั้น ผู้ก่อเหตุ สามารถลงมือได้เพียงลำพังและสามารถแฝงตัวในหมู่คนจนยากต่อการระมัดระวังป้องกัน เรียกผู้ก่อการร้ายที่ก่อเหตุในลักษณะนี้ว่า “หมาป่าโดดเดี่ยว” หรือ “หมาป่าเดียวดาย” (Wolf alone) ซึ่งฝ่ายความมั่นคงของหลายๆ ประเทศของยุโรปในช่วงนั้น ต่างพากันวิตกกังวลมิใช่น้อย เพราะยากต่อการตรวจจับ และการหาข่าว โดยไม่สามารถรู้ล่วงหน้าก่อนว่า ผู้ก่อการร้ายที่ลงมือแบบหมาป่าโดดเดี่ยวนั้น จะก่อเหตุเมื่อใด เวลาไหน และที่ใด
ก่อนที่เหตุการณ์ก่อการร้ายจะบรรเทาเบาบางลงไป อันเป็นผลจากการที่กองทัพพันธมิตรชาติตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ เข้าทำลายฐานที่มั่นใหญ่ของกลุ่มไอเอสในพื้นที่ภาคตะวันออกของซีเรียคาบเกี่ยวกับภาคตะวันตกของอิรัก รวมถึงที่เมืองรักกา อันเปรียบเสมือนเมืองหลวงของกลุ่มไอเอส พร้อมทั้งได้สังหารผู้นำกลุ่มไอเอส อย่างนายอาบู บักร์ อัลบักห์ดาดี ขณะหลบหนีระหว่างชายแดนซีเรียกับตุรเคีย เมื่อปี 2019 (พ.ศ. 2562)
อย่างไรก็ตาม ขบวนการก่อการร้ายข้างต้น ก็ยังมีเหลือเศษซาก โดยได้กลายพันธุ์เป็นเครือข่ายไอเอสในกลุ่มต่างๆ เช่น “ไอเอส-เค” เป็นต้น พร้อมกับการเกิดผู้นำกลุ่มคนใหม่ๆ เข้ามาบัญชาการในเวลาต่อมา โดยพื้นที่ฟื้นคืนของขบวนการ ก่อนก่อเหตุวินาศกรรมให้โลกต้องสะพรึง และระลึกถึงได้ ในความมีอยู่ของขบวนการร้ายเหล่านี้ เช่น เหตุโจมตีงานคอนเสิร์ตที่โครคัสซิตีฮอลล์ ในกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนับร้อยคน เป็นต้น
นอกจากนี้ เมื่อไม่กี่วันก่อน ทางกลุ่มไอเอส-เค ก็ประกาศเปิดรับกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาเป็นสมาชิกผ่านทางเว็บไซต์ ท่ามกลางความเป็นห่วงกังวลว่า กลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว จะฉวยโอกาสก่อเหตุวินาศกรรมในช่วงที่กรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส กำลังมีมหกรรมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ณ ชั่วโมงนี้ เพราะก่อนหน้านั้น ได้เกิดเหตุระทึกขวัญชาวกรุงปารีส และชาวโลกที่จะไปเยี่ยมเยือนเพื่อรับชมมหกรรมกีฬาดังกล่าวหลายครั้งหลายคราด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเหตุรถยนต์พุ่งชนร้านคาเฟ่กลางแจ้ง เหตุคนร้ายจุดไฟเผาอุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกในการเดินรถไฟ จนต้องระงับการให้บริการไปเป็นต้น
โดยผู้แทนยูเอ็นที่ประจำอยู่ในซีเรีย ได้กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ว่า น่าเป็นห่วงที่สถานการณ์ก่อการร้ายหวนมาเขย่าโลกอีกครั้ง อันเป็นจากการที่ขบวนการก่อการร้ายฟื้นคืน ซึ่งมิใช่มีแต่กลุ่มไอเอสเท่านั้น แต่ยังมีขบวนการก่อการร้ายอื่นๆ อีกด้วย ทั้งที่ถือโอกาสใช้พื้นที่อำนาจรัฐอ่อนแอ อย่างซีเรียและอิรัก เป็นพื้นที่รื้อฟื้นสร้างกลุ่มก่อการร้ายให้แข็งแกร่งขึ้นมา รวมถึงการเข้าไปสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธจากบางประเทศ เช่น กรณีที่อิหร่านสนับสนุนต่อกลุ่มเฮซบอลเลาะฮ์ในเลบานอน หรือกลุ่มฮูตีในเยเมน เป็นต้น จนกลายเป็นขบวนการก่อการร้ายที่น่าสะพรึงเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่ภูมิภาคของโลกเราต่อไปในอนาคต