นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการมวยไทยซอฟต์พาวเวอร์ ประจำปี 2567 (MUAYTHAI SOFT POWER) จำนวน 275.65 ล้านบาท เพื่อยกระดับมวยไทย จากศิลปะการต่อสู้ประจำชาติ สู่การเป็นศิลปะการต่อสู้ระดับโลก โดยจะดำเนินโครงการดังนี้ 1 การพัฒนาองค์ความรู้มวยไทย 4,925,400 บาท, 2 การเพิ่มจำนวนและประสิทธิภาพบุคคลในวงการมวย 46,602,400 บาท, 3 การจัดการแข่งขันมวยไทย 143,716,800 บาท, 4 การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์มวยไทย 23,641,800 บาท, 5 การรับรองมาตรฐานมวยไทย 51,042,600 บาท, 6 การกำกับติดตามและประเมินผล 5,717,800 บาท

ส่วนระยะเวลาดำเนินการจะจัดระหว่างเดือน ส.ค.-ก.ย.67 ซึ่ง กกท. ได้เตรียมการเพื่อดำเนินการไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งประโยชน์ที่ประเทศชาติจะได้รับ ก็คือ 1 ยกระดับมวยไทยจากศิลปะการต่อสู้ประจำชาติสู่การเป็นศิลปะการต่อสู้ระดับโลก และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สามารถเชื่อมต่อความสัมพันธ์กับคนทั่วโลก ในฐานะเป็นศูนย์กลางกีฬามวยไทยของโลกอย่างเป็นทางการ, 2 สร้างรายได้และมูลค่าเพิ่มด้วยมาตรฐานระดับโลก สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน สร้างพื้นที่และโอกาส ตลอดจนสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับบุคคลในวงการกีฬามวยไทยอย่างแท้จริง
 
ขณะที่เป้าหมายในปี 2567 ประกอบด้วย นักมวยไทย (ชาวไทย) เพิ่มขึ้น 6,032 คน, นักมวยไทย (ต่างชาติ) เพิ่มขึ้น 4,520 คน, ผู้ฝึกสอนมวยไทย (ชาวไทย) เพิ่มขึ้น 700 คน, ผู้ฝึกสอนมวยไทย (ต่างชาติ) เพิ่มขึ้น 120 คน, ค่ายมวยมาตรฐาน (ในประเทศ) เพิ่มขึ้น 500 ค่าย, ค่ายมวยมาตรฐาน (ต่างประเทศ) เพิ่มขึ้น 50 ค่าย, การรับรู้มวยไทยในต่างประเทศ 190 ประเทศทั่วโลก และการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ 2,334 ล้าบาท

"หลังจาก ครม. อนุมัติงบประมาณดังกล่าว เรียบร้อยแล้ว กกท. และ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา จะได้ดำเนินการผลักดันโครงการมวยไทยซอฟต์พาวเวอร์ อย่างเต็มสูบ เดินหน้างานในด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ต่อไป"