เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 30 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเว็ตที่ฝ่ายค้านมีข้อกังวลในเรื่องการตั้งงบประมาณข้ามปีว่า เรื่องนี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง จะชี้แจงในรายละเอียดแต่ตนมีความมั่นใจว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 8 หน่วยงานที่เข้ามาชี้แจงคณะอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อเป็นการยืนยันการดำเนินการต่างๆว่าเป็นไปตามกฎหมาย ยืนยันว่าทุกอย่างต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และต้องสุจริต
ด้านนายจุลพันธ์ กล่าวถึงข้อกังวลเรื่องแอปพลิเคชันทางรัฐ ที่อาจจะมีมิจฉาชีพเข้ามาฉวยโอกาสนำข้อมูลประชาชนไปใช้ ว่า เรื่องของระบบการยืนยันตัวตนเป็นระบบที่มีความปลอดภัยในระดับสูงสุดและเป็นมาตรฐานสากล ทั้งนี้ต้องกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชน ขณะนี้มีคนเข้ามาโหลดแอปฯทางรัฐ รวมถึงดำเนินการลงทะเบียนวันหนึ่งไม่ต่ำกว่าประมาณ 1 ล้านคนโดยเฉลี่ย ซึ่งสูงกว่าที่คาดหมายไว้ นี่ยังไม่เริ่มวันที่ 1 ส.ค. ที่จะเริ่มกระบวนการยืนยันเสร็จ แต่ก็มีการลงทะเบียนมาแล้ว ซึ่งเป็นประโยชน์กับทางระบบมาก เพราะเป็นการผ่องถ่ายโหลดของระบบเพื่อให้ระบบสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น และมาจนถึงวันนี้ยังไม่ได้มีปัญหาใดๆ แต่ต้องยอมรับแอปฯทางรัฐจะเป็น Super App ในอนาคตที่จะเป็นศูนย์รวมบริการของภาครัฐจำนวนมาก ขณะนี้มีหน่วยงานของรัฐมาเชื่อมต่อในเรื่องการบริการหลายๆส่วน
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนที่แอปฯทางรัฐรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกลไกที่จะต้องเดินหน้าเรื่องของดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้เป็นปัญหา เพราะเราเตรียมพร้อมรองรับ และบางหน่วยงานที่มาเชื่อมต่อและกระบวนการที่ประชาชนเข้าไปลองกดใช้ดูบางส่วน บางอย่างช้า เพราะไม่ได้เตรียมรองรับประชาชนจำนวน 10 กว่าล้านคนที่เข้ามาแล้วในปัจจุบัน ซึ่งตรงนี้เป็นข้อดี เราจะได้เห็นถึงข้อจำกัดของบริการภาครัฐในแต่ละมิติ และคงจะมีการประสานงานเพื่อที่จะอัปเกรดในเรื่องของความจุ หรือปริมาณการเข้าถึงให้มากขึ้นต่อไป ยืนยันเรื่องการลงทะเบียนแอปฯทางรัฐไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นกลไกในการยืนยันตัวตนระดับสูงมาก ฉะนั้นเรื่องความปลอดภัยจะอยู่ในระดับสูงสุด ไม่มีปัญหาใดๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงเวลานี้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเดินมาจนถึงขั้นเงินจะเข้ากระเป๋าประชาชนในเร็วๆนี้ มั่นใจหรือไม่ว่าการดำเนินการต่างๆจะไม่ทำให้ตัวเองติดคุกในวันข้างหน้า นายจุลพันธ์ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า มั่นใจครับ มั่นใจมาก ไม่ได้มีประเด็นปัญหาใดๆ เพราะทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมาย และเราก็ระมัดระวัง รับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานอย่างครบถ้วน ข้อสังเกตใดๆที่เข้ามาเราก็รับมาพิจารณา และมีการปรับแก้มาเป็นลำดับ ฉะนั้นตอนนี้ตัวโครงการอยู่ในจุดที่เชื่อมั่นได้ว่าในสิ้นปีนี้เงินถึงมือประชาชนแน่นอน โดยทั้งหมดเป็นไปตามกรอบของกฎหมายทุกประการ