เคาะแล้ว! เส้นทางรถไฟฟ้า Monorail สายสีแดง แยกวงเวียนปลาโลมา -แยกทัพพระยา-สนามกีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก ระยะทาง 17.37 กิโลเมตร หวังรองรับความเจริญเติบโตสนองแผน EEC
วันที่ 30 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ห้องประชุมบัวหลวงฮอลล์ ศูนย์ประชุมมหาไถ่ พัทยา กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา โครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยา ในรูป แบบรถไฟฟ้า ระยะที่ 2 เมืองพัทยา ได้มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนชนผู้มีส่วนได้เสียรถไฟ ฟ้า สายสีแดง (แยกวงเวียนปลาโลมา -แยกทัพพระยา-สนามกีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก ) กลุ่มย่อย ครั้งที่ 2 โดยมีประชาชนผู้มีส่วนได้เสียเข้าร่วมรับฟังข้อมูลและรายละเอียดการดำเนินโครงการฯ จำนวนมาก
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เป็นการนำเสนอร่างมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลประชุมเพื่อสรุปผลการคัดเลือกแนวทาง รูปแบบที่เหมาะสม อีกทั้งยังเป็นการรับฟังข้อเสนอแนะต่อมาตรการต่าง ๆ เพื่อนำไปพิจารณาปรับปรุงให้มีความเป็นไปได้และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น
โดยผลการศึกษาได้สรุปแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง ซึ่งจะมีจุดเริ่มต้นที่วงเวียนถึงแยกทัพพระยาและจะใช้โครงสร้างทางวิ่งร่วมกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ได้มีการซึ่งโครงการไปแล้วเมื่อปี 2563 แล้ววิ่งไปตามถนนทัพพระยาและถนนจอมเทียนสาย 2 ไปจนถึงแยกจอมเทียนแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนชัยพฤกษ์ 1 และถนนชัยพฤกษ์ 2 ไปถนนผังเมืองจ4 สิ้นสุดบริเวณหน้าสนามกีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก รวมระยะทางประมาณ 17.37 กิโลเมตร ซึ่งการออกแบบโครงการสายสีแดง ช่วงวงเวียนโลมา แยกทัพพระยา สนามกีฬาแห่งชาติฯ จะเป็นระบบขนส่งสาธารณะระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) ที่มีความเหมาะสมสำหรับเมืองพัทยา แม้จะมีข้อด้อยเรื่องต้นทุนค่าก่อสร้างและค่าบำรุงที่ค่อนข้างสูง แต่โครงสร้างทางวิ่งยกระดับมีผลกระทบกับการจราจรน้อย มีลักษณะที่เอื้อต่อการพัฒนาพื้นที่ของเมืองพัทยา สอดคล้องกับบริบทของเมืองพัทยาท่องเที่ยวและดึงดูดให้เกิดการเปลี่ยนรูปแบบการเดินทาง
ทั้งนี้ในส่วนของสถานีของรถไฟฟ้าสายสีแดงมีจำนวน 10 สถานี โดยตำแหน่งสถานีรถไฟฟ้าจะกำหนดระยะห่างระหว่างสถานีอยุ่ที่ 800-1,000 เมตร โดยระยะเดินจะอยู่ที่ 400-500 เมตร สำหรับการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสรม่วงจะเป็นการลงทุนแบบร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือ PPP (Public Private Partnership ) ซึ่งหากจะดำเนินการแล้วจะเกิดประโยชน์คุ้มค่ากับการจะเป็นเมืองหลักหรือศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวตามแผนของการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC ในอนาคต