วันที่ 29 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า วัดยางสุทธาราม แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ มีพิธีพระราชทานเพลิงศพพ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผกก.ป.สน.ท่าข้าม อายุ 59 ปี ที่เสียชีวิตจากการเข้าระงับเหตุชายมีอาการคลุ้มคลั่งมีและใช้อาวุธปืนตีทำร้ายบุตรสาวและกักขังไว้ในบ้านพักย่านพระราม 2 แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ ซึ่งระหว่างระงับเหตุและเจรจาต่อรองชายคนดังกล่าวได้เปิดประตูออกมาและใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายนัด เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม เสียชีวิต

โดยบรรยากาศภายในวัดเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งมีครอบครัวของพ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ อาทิ พ.ต.ท.หญิงจิราวรรณ ธัญญะเจริญ พี่สาว, พ.ต.ท.หญิง ชนม์ณกานต์ จันยะรมณ์ รองผกก.กองอัตรากำลัง สนง.กำลังพล, ร.ต.ท.วันรัฐธ์ จันยะรมณ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ภรรยาและลูกชาย ญาติพี่น้อง ตลอดจนผู้บังคับบัญชาและเพื่อนๆ มาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก โดยมีพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) เดินทางมาเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพพ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผกก.ป.สน.ท่าข้าม

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานหีบทองลายสลัก ในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผกก.ป.สน.ท่าข้าม โดยมีร.ต.ท.วันรัฐธ์ จันยะรมณ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ บุตรชาย เป็นผู้อ่านสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งนำความทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณแก่ครอบครัวของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผกก.ป.สน.ท่าข้าม อย่างหาที่สุดมิได้ 

สำหรับพ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ หรือรองหรั่ง เกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2508 ปัจจุบันอายุ 59 ปี บรรจุครั้งแรกเมื่อ ปี 2537 ในตำแหน่งรองสารวัตร ปี 2551 เลื่อนตำแหน่งเป็นสารวัตร ปี 2558 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรอง ผกก. ปี 2560 ดำรงตำแหน่งเป็น รอง ผกก.สส. สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ก่อนโยกเป็นรอง ผกก.ป. สภ.รามัน จ.ยะลา ปี 2563 ย้ายเป็น รอง ผกก.ป้องกันปราบปราม สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ปี 2565 โยกเป็น รองผกก.ป.สน.บางมด กทม. และปี 2566 จนถึงปัจจุบันเป็น รองผกก.ป.สน.ท่าข้าม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดูแลสิทธิประโยชน์เบื้องต้นให้กับครอบครัวของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จำนวน 4,577,210 บาท พร้อมปูนบำเหน็จความดีความชอบตอบแทนเป็นกรณีพิเศษ โดยขอเลื่อนเงินเดือนให้ 6 ขั้น ขอพระราชทานยศเป็น “พล.ต.อ.”