จากกรณีที่มีหญิงอายุ 37 ปีไปร้องขอความช่วยเหลือกับทนายรัชพล ศิริสาคร เนื่องจากได้เข้าไปเล่นการพนันที่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง แต่ถูกตำรวจชุดจับกุมบังคับโอนเงิน 800,000 บาท ให้กับเจ้าของบ้าน โดยอ้างว่าเป็นการไกล่เกลี่ยไม่ให้ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม หลังมีการนำเสนอข่าวออกไป พลตำรวจตรี เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 พร้อมด้วย พันตำรวจเอก สมคิด ประเชิญสุข ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลาดกระบัง ได้แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ก่อนหน้านี้ทางเจ้าของบ้าน และลูกสาวได้มาลงบันทึกประจำที่ สน.ลาดกระบัง เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมาลงประจำวันแจ้งว่า เวลาประมาณ 14.00 น. จะมีการลักลอบเล่นการพนันที่บ้านหลังหนึ่ง ย่านลาดกระบัง และหากมีการลักลอบเล่นการพนันจริงจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพื่อจับกุมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ต่อมาตำรวจ สน.ลาดกระบัง ได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบเล่นการพนันเกิดขึ้นจริงตามที่มีการลงบันทึกประจำวัน จากนั้นเวลาประมาณ 14.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดกระบัง ได้มีการจับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 7 คน พร้อมของกลาง ในข้อหา ร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน พนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ ก่อนจะมีการส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดี และศาลมีคำพิพากษาเรียบร้อยแล้ว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ตำรวจไม่ได้จับกุมเจ้าของบ้าน และลูกสาว เนื่องจากอยู่ในสถานะสายลับ และเป็นผู้แจ้งเบาะแส และให้สัญญาณตำรวจเข้าไปทำการจับกุม ซึ่งในวันที่จับกุมมีตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปรามจาก สน.ลาดกระบังเพียงแค่ 7 นายเท่านั้น ไม่ได้มีตำรวจ 30-40 นายตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง
ส่วนพฤติกรรมของเจ้าของบ้าน ที่จะมีพฤติกรรมการเล่นพนันก่อนหน้านี้หรือไม่ ต้องขออนุญาตตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งเรื่องเงิน 800,000 บาท ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าจะมีความเป็นไปได้เพราะมีการส่งดำเนินคดีตามขั้นตอน พร้อมกันนี้ยืนยันว่า ของกลางที่จับได้ คือเงินกองกลาง 700 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท ซึ่งก็จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และยืนยันว่า ผู้เสียหายไม่เคยมาพบผู้กำกับแต่อย่างใด รวมทั้งสารวัตรซึ่งเป็นหัวหน้าชุดจับกุมไม่ได้เป็นญาติกับเจ้าของบ้านตามที่ผู้เสียหายกล่าว
ด้าน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 ชี้แจงกับสื่อมวลชน ว่าเบื้องต้นทางกองบังคับการตรวจนครบาล 3 ได้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มีการปรากฏในทางสื่อมวลชน มอบหมายให้ พันตำรวจเอก โฆษิต บุญทวี รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 เป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด
ส่วนการรับฟังข้อร้องเรียนเบื้องต้น รับฟังจากทางผู้ที่ร้องเรียนผ่านทางสื่อมวลชน ก็จะติดตามทั้ง 7 คน ที่ถูกจับกุมมาสอบสวนปากคำ ว่ามีการกระทำตามที่กล่าวหาจริงหรือไม่ เนื่องจากวันนี้ยังไม่ได้ฟังทางเจ้าของบ้าน ทางผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ รวมถึงยังข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของตำรวจทั้ง 7 นายให้ชัดเจนด้วยว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้มีรายงานจากหนึ่งในตำรวจชุดจับกุม ให้ข้อมูลว่า เรื่องเงิน 800,000 บาท ที่ผู้เสียหายบอกว่าถูกตำรวจรีดเงิน ก่อนหน้านี้เจ้าของบ้านเคยมาลงบันทึกประจำวันว่าถูกกลุ่มผู้เสียหายทั้ง 7 คนรวมหัวกันฉ้อโกง ซึ่งตนก็ให้คำแนะนำไปว่าคดีดังกล่าวสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ ทำให้ผู้เสียหายเป็นกังวลว่าจะถูกดำเนินคดีจึงมีการโอนเงินทั้งหมดที่มีให้กับเจ้าของบ้าน เนื่องจากกังวลว่าจะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม
นอกจากนี้ มีข้อมูลว่า ผู้เสียหายทั้ง 7 คน รวมตัวกันเป็นกลุ่มแก๊งที่จะตระเวนไปฉ้อโกงเจ้ามือนักพนันในแต่ละพื้นที่ ซึ่งทั้ง 7 คนจะรู้กัน และมีการวางแผนที่จะโกงการเล่นพนันอยู่ตลอดเวลา จากนั้นจะนำเงินที่ได้มาแบ่ง โดยหัวหน้าแก๊งของกลุ่มนี้จะเป็นคู่สามีภรรยากัน