วันที่ 29 ก.ค.67 แม่ค้าร้านไก่ย่างห้าดาว โดนมิจฉาชีพทำทีเป็นลูกค้ามาสั่งไก่ย่างที่หน้าร้านแล้วพอได้ไก่ย่างตามที่ต้องการกลับบิดรถหนีต่อหน้าต่อตาเงินก็ไม่จ่าย ด้วยความตกใจและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแม่ค้าคนดังกล่าวก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงกลับบ้านไปปรึกษากับสามีแล้วนำภาพคลิปจากกล้องวงจรปิดภายในร้านที่บันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าว มาลงติ๊กต๊อกเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับแม่ค้าพ่อค้าคนอื่นให้ระวังชายคนดังกล่าว 

เมื่อผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากแม่ค้าคนดังกล่าวจึงเดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ร้านไก่ย่างห้าดาว ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยประชาอุทิศ 33 หน้าปากทางเข้าศรีไทยคอนโด ถนน ประชาอุทิศ แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร พบกับผู้เสียหายซึ่งทราบชื่อต่อมา นางสาวภูคำ จุลมณี อายุ 38 ปี เป็นลูกจ้างของร้านไก่ย่างห้าดาว 

นางสาวภูคำ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 14.00 น. ได้มีชายแต่งตัวดี ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า PCX สีบรอนซ์-เทา สวมหมวกกันน๊อคเต็มใบปิดบังใบหน้า มาสั่งไก่ย่าง 2 ตัว พอเมื่อกำลังจัดเตรียมออเดอร์ อยู่นั้นมิจฉาชีพคนดังกล่าวก็ทำทีเป็นเร่งรีบ แล้วก็บอกให้ตนส่งไก่ตัวที่หั่นเสร็จแล้วนำใส่ถุงมาให้ตนก่อน เมื่อตนส่งให้มิจฉาชีพคนดังกล่าวก็ทำทีว่าจะจ่ายเงินแบบโอนผ่าน Application ของธนาคาร ตนก็เห็นว่ามิจฉาชีพคนดังกล่าวทำทีเป็นหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด ตอนนั้นตนก็ไม่ได้คิดอะไรก็หยิบไก่ตัวที่ 2 ขึ้นมาหั่นเพื่อจะนำใส่ถุงส่งให้อีก แต่แล้วมิจฉาชีพคนดังกล่าวก็บิดรถหนีไปอย่างไว โดยตอนนั้นตนยังไม่ได้ทันตั้งตัวเลย ก็เลยรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและตนก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่มิจฉาชีพคนดังกล่าวมาทำแบบนี้กับตน พอตนกลับบ้านก็เกิดความเครียดกลัวว่าจะโดนนายจ้างตำหนิ หรืออาจจะต้องโดนหักเงินเดือนก็เป็นได้ ถึงแม้ความเสียหายจะไม่มากแค่ 334 บาท แต่ก็เป็นค่าแรงที่ตนทำงานทั้งวันเลย 

ตนมีลูกเล็กๆ ต้องหาเลี้ยงดู แล้วยังมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นอีกมากมาย สามีของตนก็เลยนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาลง Application tiktok เผื่อใครจะเห็นหรือจำได้จะได้ช่วยกันตามหามิจฉาชีพคนดังกล่าวให้มารับผิดชอบกับสิ่งที่เขากระทำ และเพื่อเป็นอุทาหรณ์เพื่อเตือนใจให้กับพ่อค้า แม่ค้าได้ระมัดระวังชายคนดังกล่าว แล้วตนก็นำความทั้งหมดไปปรึกษานายจ้าง ตนโชคดีมากที่นายจ้างของตนเข้าใจก็เลยไม่ได้โดนหักค่าแรงอะไร แล้วยังให้กำลังใจตนในการทำงานอีกด้วย ต่อไปตนจะระมัดระวังตัวให้มากกว่านี้ 

จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนไม่ได้แจ้งความ แต่ก็อยากจะให้เรื่องราวของตนได้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้ใครหลายคนได้ระวังตัว ตนเคยถามจากพ่อค้า แม่ค้าแถวนี้แล้วว่าเคยโดนเหตุการณ์แบบนี้หรือเปล่า คำตอบที่ได้จากพ่อค้าแม่ค้าแถวนี้ก็เหมือนกับตนเลย โดนมากันจนถ้วนหน้าแล้ว ส่วนมากจะเป็นแก๊งแขก ทำเป็นพูดภาษาไทยไม่ได้พูดภาษาอังกฤษอย่างเดียว แล้วซื้อข้าวเหนียวห่อเดียวแต่ให้เป็นแบงค์ 1,000 บาท แม่ค้าส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยมีตังทอนเพราะช่วงนี้ขายของลำบากเงินทองก็หายาก ก็ยื่นแบงค์คืนให้แล้วแขกคนดังกล่าวก็จะทำทีเป็นสั่งอาหารเพิ่ม แม่ค้าก็จะเกิดความ มึน งง แล้วที่นี้ เพราะลูกค้าที่เป็นมิจฉาชีพก็จะทำทีเป็นชวนคุยนูนนี่นั่นพูดภาษาอังกฤษบ้างไทยบ้างปะปนกันไปจึงทำให้แม่ค้าเกิดเสียสมาธิ แล้วก็ส่งอาหารให้พร้อมเงินทอน 

ทั้งๆ ที่ตนยังไม่ได้รับเงินจากมิจฉาชีพเลย แล้วบางรายก็จะเจอในลักษณะเดียวกันมาในแบบสั่งอาหารหลายอย่างแต่ให้ส่งมาทีละอย่างพอได้อาหารยังไม่ครบดีก็บิดรถหนีไปเลย แม่ค้าแถวนี้จะเรียกแก๊งนี้ว่า"แก๊ง PCX" เพราะส่วนใหญ่แก๊งมิจฉาชีพพวกนี้จะใช้ยานพาหนะในการก่อเหตุเป็นรถจักรยานยนต์รุ่นนี้ซะส่วนใหญ่

ตนก็อยากจะให้เป็นอุทาหรณ์เตือนภัยจะได้ระวังตัวกันมากขึ้นและก็ไม่อยากให้ใครต้องมาโดนแบบตนอีก เงินทองหายาก ขายของก็แสนลำบากแล้วต้องมาเจอแบบนี้ก็แย่เลย แม่ค้าบางคนถึงกับร้องไห้เลยนะที่ต้องมาโดนแบบนี้