'ในหลวง' เสด็จออกมหาสมาคม ทรงมีพระราชดำรัสให้ทุกฝ่ายตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนผาสุข ด้านประชาชน ทั่วทั้งแผ่นดิน ร่วมแซ้ซ้องถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.67 ด้าน นายกฯ นำ ข้าราชการ-ประชาชน ร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติ พร้อมถวายสัตย์ปฏิญาณ ท่ามกลางข้าราชการและประชาชนที่ร่วมงานและที่จากทั่วประเทศต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญ ดังกึกก้อง 

     ที่บริเวณท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 28 ก.ค.67 เวลา 07.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนางพักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง และผู้แทนภาคเอกชนร่วมพิธี
  
   โดยเมื่อ นายกรัฐมนตรีและภริยาเดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายกรัฐมนตรีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายคำนับและถวายธูปเทียนแพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ให้ศีล พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
    
 จากนั้น คณะองคมนตรีและภริยา นายกรัฐมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป นายกรัฐมนตรีถวายผ้าไตรจำนวน 10 ไตร กรวดน้ำรับพร กราบลาพระรัตนตรัย แล้วถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและภริยา นำผู้เข้าร่วมพิธีร่วมตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 173 รูป นำโดยเสด็จพระมหาวีรวงศ์ นำโดยสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นการเสร็จพิธี
    
 ต่อมา เวลา 08.00 น. ณ บริเวณท้องสนามหลวง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ หรือ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567  โดยมีคณะรัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง ข้าราชการระดับสูงของทุกส่วนราชการ ทั้งพลเรือน ทหาร ตำรวจมหาวิทยาลัยของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคประชาชนเข้าร่วมพิธี ขณะที่ข้าราชการในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้ร่วมทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ผ่านการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยอย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ
    
 เมื่อนายกรัฐมนตรีถึงบริเวณเวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง ได้เดินขึ้นสู่เวที ถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วถวายธูปเทียนแพ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายเครื่องราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ความว่า ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อมข้าพระพุทธเจ้า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในนามของข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐทั่วประเทศต่างมีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้นที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2567 นี้
    
 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปวงข้าพระพุทธเจ้าต่างประจักษ์ในพระราชวิริยอุตสาหะ และพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญ พระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความเจริญงอกงามของประเทศชาติ และประโยชน์สุขของอาณาราษฎรทุกหมู่เหล่า ทรงดำรงพระองค์ เป็นแบบอย่างแก่บรรดาข้าราชการ ในการปฏิบัติงาน เพื่อตอบแทนคุณของแผ่นดิน ด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม เน้นประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าจักเทิดทูนไว้ เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมสืบไป
    
 ในโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอตั้งจิตอธิษฐาน อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลดลบันดาลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระเจริญพร้อมด้วยสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล พระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระบารมีเกริกไกรแผ่ไพศาล สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้า ปวงข้าพระพุทธเจ้า และเหล่าพสกนิกรตราบกาลนาน
    
 ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต นำข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ ดังต่อไปนี้ ข้าพระพุทธเจ้า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะประพฤติปฏิบัติตนเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน มีความซื่อสัตย์สุจริต เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท มุ่งมั่นแน่วแน่ แก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน และดำเนินชีวิตโดยยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนแห่งศาสนา ตามแนวทางพระบรมราโชวาทตลอดไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
    
 จบแล้ว นายกรัฐมนตรีและผู้ร่วมพิธีถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วนายกรัฐมนตรีและผู้ร่วมพิธีร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และร่วมร้องเพลงสดุดีจอมราชา เป็นอันเสร็จพิธี

 สำหรับพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ประกอบไปด้วยกิจกรรมทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยกิจกรรมส่วนกลาง กำหนดจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ณ ท้องสนามหลวง กิจกรรมส่วนภูมิภาค กำหนดจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ณ ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด หรือในสถานที่เหมาะสม ซึ่งสำนักงาน ก.พ. ได้เชิญชวนหน่วยงานจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ โดยดำเนินการพร้อมกับพิธีที่จัดขึ้น ณ ท้องสนามหลวง
    
 ขณะที่ กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวง 21 นัด เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ ท้องสนามหลวง โดยจัด 1 กองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 วินาที    สำหรับการยิงสลุต ถือเป็นธรรมเนียมที่ทุกประเทศทั่วโลก ได้ยึดถือสืบทอดกันมาแต่ครั้งโบราณ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพให้แก่ชาติหรือบุคคล โดยยิงปืนใหญ่ด้วยดินดำหรือดินไม่มีควัน มีจำนวนนัดเป็นเกณฑ์ตามควรแก่เกียรติ หรือสิ่งที่ควรรับความเคารพ ในปัจจุบันประเทศไทยยึดตามหลักเกณฑ์ ในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา, พระราชพิธีฉัตรมงคล หรือวันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมราชินี หรือสมเด็จพระยุพราช รวมถึงงานต้อนรับพระมหากษัตริย์หรือประมุขแห่งรัฐ จะทำการยิงสลุตจำนวน 21 นัด เพื่อแสดงความเคารพอย่างสูงสุด
    
 เวลา 08.45 น.   นายกรัฐมนตรีและภริยา ลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904  ในพระบรมมหาราชวัง ก่อนเดินทาง เฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง                      
    
 เวลา 10.27 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง ในการเสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.2567
    
 ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ, ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน และท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน โดยเสด็จในการนี้ด้วย พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน ผู้แทนศาสนาอื่นๆ เฝ้าฯ พร้อมกันในท้องพระโรง พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
    
 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยทางพระทวารเทวราชมเหศวร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ บนพระราชบัลลังก์ภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร
    
 จากนั้น เจ้าพนักงานรัวกรับและเปิดพระวิสูตร พระตำรวจหลวงชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ เจ้าพนักงานประโคมกระทั่งแตรมโหระทึก กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะนั้นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ 21 นัด พระสงฆ์ทั่วราชอาณาจักรเจริญชัยมงคลคาถา ย่ำฆ้องกลองระฆัง พร้อมกับการประกอบพิธีกรรมของศาสนาอื่นๆ
    
 ครั้นสุดเสียงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีแล้ว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนสมาชิกรัฐสภา, นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนข้าราชการตุลาการ
    
 ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบความว่า  ข้าพเจ้ามีความปลื้มใจอย่างยิ่งที่ได้มาท่ามกลางมหาสมาคมพรั่งพร้อมด้วยทุกท่าน จากทุกสถาบันสำคัญของชาติ ขอขอบพระทัยพระบรมวงศานุวงศ์ และขอบใจนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาในคำอำนวยพร และการเฉลิมฉลองอันงดงามยิ่งใหญ่ที่ทุกคนทุกฝ่ายตั้งใจจัดให้ข้าพเจ้าเป็นพิเศษในวาระนี้ ท่านทั้งหลายผู้มีความรักในชาติ บ้านเมืองย่อมปรารถนา ให้ชาติบ้านเมืองมีความผาสุกมั่นคง และประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ในการนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกท่านผู้อยู่ในตำแหน่งสำคัญของชาติจะต้องบำเพ็ญกรณียกิจทุกอย่างโดยมีเป้าหมายสูงสุดเป็นอย่างเดียวกัน เพื่อให้ประเทศชาติมีความรุ่งเรืองก้าวหน้าอย่างยั่งยืน อันจะทำให้ประชาชนทุกคนในชาติมีความสุขความเจริญและความมั่นคงในชีวิตอย่างแท้จริง หากทุกท่านทำความเข้าใจให้ถูกต้องตรงกันในข้อนี้ แล้วตั้งใจปฎิบัติภาระหน้าที่ของตนให้บรรลุผลเป็นประโยชน์สูงสุดและประสานสอดคล้องซึ่งกันและกันเป็นอย่างดีแล้ว งานของชาติก็จะดำเนินไปสู่เป้าหมายได้อย่างถูกต้องเที่ยงตรง และสำเร็จผลสมบรูณ์ดังที่ทุกคนทุกฝ่ายตั้งใจปรารถนา ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวไทยทุกหมู่เหล่าเคารพบูชา จงคุ้มครองรักษาทุกท่าน ให้ประสบความสุขสวัสดีพร้อมทั้งความเป็นสิริมงคลทุกประการ

 ต่อมา เวลา 19.19 น.   นายกรัฐมนตรีและภริยา เดินทางไปเป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง ท่ามกลางประชาชนที่ร่วมงานต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วบริเวณท้องสนามหลวงและพร้อมกันทั่วประเทศ  
     
วันเดียวกัน ที่บริเวณถนนสนามไชยด้านหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร กระทรวงมหาดไทยจัดพิธีเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี ผู้แทนนายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐภา ผู้แทนประธานศาลฎีกา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ,นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย, นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย, นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมพิธี  
     
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า สำหรับการจัดพิธีเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามเคลื่อนไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในช่วงเช้าวันนี้ ได้ดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามหมายกำหนดการที่เลขาธิการพระราชวังรับพระบรมราชโองการเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ซึ่งข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนถึงภาคีเครือข่าย ทั้งข้าราชการทุกหมู่เหล่า ผู้นำท้องที่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัคร ตลอดจนประชาชนทั่วราชอาณาจักร ต่างมีความปลื้มปีติโสมนัสเป็นล้นพ้น ที่ได้มีส่วนร่วมในการประกอบพิธีจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 108 แหล่งทั่วประเทศ เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อร่วมกันแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และโดยตลอดทั้งวันวันนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ได้ร่วมในการทำกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคล โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ได้ร่วมกันจัดพิธีทำบุญตักบาตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ และในช่วงกลางวันจะเป็นการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ในช่วงเย็นจะเป็นพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ สถานที่ที่จังหวัดและอำเภอกำหนด
      
 สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ www.royaloffice.th ระหว่างวันที่ 23 - 29 กรกฎาคม 2567 นายสุทธิพงษ์ กล่าว