หลายคนเห็น  คงคิดว่าเป็นแค่คนหาปลา  แต่ประวัติไม่ธรรมดา เป็นถึงนักเรียนทุน “ อานันทมหิดล ” ปริญญาเอก 3 ใบ จบกลับมาทำงานเขียนขั้นตอนโครงการพระราชดำริ สมัย ร. 9  กว่า  4,000  โครงการ ปัจจุบันเป็นจิตอาสาสอนพิเศษนักเรียนฟรีอยู่ที่บ้านเกิดราชบุรี และเป็นนักล่าปลาหมอคางดำมาทำแดดเดียว   
               
( 28 ก.ค. 67  )  ใครคงเห็นคุณลุงเสื้อแดง ใส่หมวกกันน๊อคน้ำเงิน   ที่ชอบขี่รถจักรยานยนต์ใช้แหออกตระเวนหาปลาไปตามลำคลองต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.ราชบุรี และ จ.สมุทรสงคราม อยู่เป็นประจำ เพราะลุงคือนักล่าปลาหมอคางดำในยุคแรก ๆ ที่ยังไม่มีการระบาดมากหนัก เอามาทำเป็นอาหาร จนปัจจุบันปลาหมอคางดำ กลายเป็นปัญหาแพร่ระบาดอยู่ในช่วงนี้ ทุกวันยามว่างลุงสุรพล  ได้นำแหไปเหวี่ยงหาปลานำมาทำเมนูอาหาร ต้มยำ แกงเขียวหวาน ทอดแดดเดียว บางครั้งหาปลาได้เยอะก็จะเอาไปแจกชาวบ้านด้วย  


                
จากการสอบถามเรื่องราวชีวิตของลุงสุรพล อย่างละเอียดช่วงที่ออกหาปลาในพื้นที่ตำบลสามเรือนทราบว่า  นอกจากชอบหาปลาเป็นชีวิตจิตใจแล้ว ลุงยังใช้เวลาว่างในการสอนหนังสือฟรี ให้กับนักเรียนในวิชาภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ ช่วงวันหยุด จะมีพ่อ แม่ ผู้ปกครองที่รู้จักประวัติของลุงสุรพล ติดต่อพาลูกหลานเข้ามาเรียนที่อาคารตั้งอยู่เลขที่ 65 / 282 ถนนคฑาธร อ.เมือง จ.ราชบุรี  อีกทั้งเป็นคนที่ชอบสระสมเหรียญสตางค์ และ แบงค์เก่า ๆ จำนวนมากมีแทบทุกรุ่น 


               
 จากการไปนั่งดูลุงสุรพล สอนวิชาคณิตศาสตร์ที่สอนเทคนิควิธีการคิดคำนวณที่แปลก ส่วนวิชาภาษาอังกฤษ จะสอนไม่เหมือนการเรียนการสอนทั่วไป  เด็กแต่ละคนที่มาเรียนพิเศษ ลุงจะสัมภาษณ์เพื่อทดสอบความรู้การเรียนว่ามีไอคิวหรือความรู้ที่เข้าใจในแต่ละวิชาเรียนมากน้อยแค่ไหน โดยมีผู้ปกครองที่ว่างจากงานมาร่วมฟังการเรียนการสอนด้วยในบางครั้ง  แต่หลายคนไม่เคยรู้เลยว่าลุงสุรพล ที่เคยใช้แห่เหวี่ยงหาปลา ดีกรีเป็นถึงด็อกเตอร์ มีปริญญาถึง 3 ใบ  


              
วันนี้จึงพาไปรู้จักกับลุงสุรพล คือ ดร.สุรพล  สินเกตุ อายุ 67  ปี  ได้บอกเล่าเรื่องราวชีวิตว่า  ตนเองเป็นนักเรียนทุน “ อานันทมหิดล ”  ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ  จนจบการศึกษาปริญญาเอกใบที่ 1   สาขาวิศวกรรมการออกแบบเครื่องจักรกล จากประเทศเยอรมัน  เมื่อปี   พ.ศ.  2532   ปริญญาเอกใบที่  2  จบปรัชญาการเมืองการปกครอง จากมหาวิทยาฮาร์วาด  สหรัฐอเมริกา  เมื่อปี พ.ศ.  2536   ปริญญาเอกใบที่  3   จบยกร่างกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐอเมริกา ปี  พ.ศ.  2538  หลังจบมาแล้วได้เข้าทำงานรับหน้าที่เขียนยกร่างขั้นตอนการนำไปปฏิบัติให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการพระราชดำริ มากกว่า  4,000  โครงการ  สมัยที่ยังคงอยู่รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทของพระองค์ท่าน  แต่ปัจจุบันอายุเริ่มมากขึ้นจึงได้ขอหยุดพักผ่อนชั่วคราว    แต่ช่วงหยุดพัก ก็ยังเป็นจิตอาสาสอนพิเศษให้กับเด็กที่สนใจเรียนฟรี วิชาคณิตศาสตร์ที่สอนเทคนิคการคิดคำนวณ ที่รวดเร็วและแม้นยำ  ส่วนที่สอนเป็นภาษาอังกฤษนั้นจะเน้นกิริยาตัวหนึ่งอย่างน้อยต้องผันให้ครบ 5 เท้นท์ ที่ใช้พูด 


            
  ดร.สุรพล  สินเกตุ กล่าวว่า  การเป็นจิตอาสาสอนหนังสือนั้น  เพราะเห็นคนไทย และเด็กไทย  ส่วนใหญ่ที่เรียนแล้วใช้ระบบตัดเกรด  คนที่ได้เกรดต่ำกว่า  3  จะมีปัญหาเรื่องภาษาอังกฤษ กับคณิตศาสตร์ ค่อนข้างมาก คนที่เก่งจะต้องเรียนภาษาได้  คือ ภาษาสอนให้คนให้สามารถสื่อสารกับคนอื่นได้  คณิตศาสตร์สอนให้รู้จักคิดเป็นและรู้จักวางแผนเป็นขั้นตอนเป็นระบบ  ตนเองจบวิศวกรรมการออกแบบเครื่องจักรกล จากประเทศเยอรมัน  จบปรัชญาการเมืองการปกครอง จากมหาวิทยาฮาร์วาด  จบยกร่างกฎหมายจากมหาวิทยาลัยคอแนล สหรัฐอเมริกา  เป็นทุนเล่าเรียนหลวง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้ง  3  ทุน  เกิดจากเงินบริจาคของตระกูลใหญ่ในประเทศไทย เวลาสอนเด็ก ๆ จะสอนว่า  ถ้าเข้าใจให้ขอบคุณพระเจ้าอยู่หัว  อย่าลืมนึกถึงบุญคุณของคนที่ส่งให้เรียน   หลังจบมาจากเมืองนอก หน้าที่ของตนเองแล้วแต่พระองค์ท่าน เพราะเรียนด้วยทุนหลวง จึงเป็นจิตสำนึกที่จะต้องปฏิบัติต่อยอดให้กับคนอื่น ๆ  


               
 ตลอดระยะเวลาที่ทำงานรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมา 29  ปี  ตอนที่พระองค์ท่านเสด็จพระดำเนินไม่ได้  แต่โครงการยังมีและคนที่จะสานงานต่อ คือ   องคมนตรี ซึ่งจะต้องมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ  ท่าน ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ท่านดูเรื่องมูลนิธิชัยพัฒนา  ท่านประสงค์ พิทูรกิจจา คนราชบุรี  ซึ่งท่านอยู่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์  จะมีนักวิชาการกว่า  50  คน  คนจบดอกเตอร์ที่เป็นนักเรียนทุน เป็นใครก็จะรับหน้าที่ของตัวเองไปทำแต่ละด้านที่เรียนมา  ส่วนตนเองมีหน้าที่เขียนขั้นตอนเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ  เขียนขั้นตอนนำไปปฏิบัติใช้  ซึ่งนักวิชาการอื่น ๆ เขาได้เขียนมาหมดแล้ว  ว่าอันนี้เป็นอย่างไร แก้ไขปัญหาอย่างไร   เวลาสอนนักเรียนจะบอกวิธีคิด ทำระบบ คือ ได้ไปเรียนยกร่างกฎหมายมาแล้ว คิดว่าเป้าประสงค์แรกที่พระเจ้าอยู่หัวให้ไปเรียนคงจะให้มาเขียนยกร่างพระราชดำรัส  เป็นการเขียนขั้นตอน พระองค์ท่านคงเห็นความสามารถเรื่องตรงนี้   


             
  ส่วนการสอนนักเรียนฟรี ผลการเรียนของเด็กปรากฏว่า  ไม่เห็นคุณค่า  มาเรียนบ้าง ไม่มาบ้าง  แต่ผู้ปกครองต้องการให้สอน เนื่องจากสอนแล้วประสบความสำเร็จ เช่น เด็กสมาธิสั้นมาเรียนกับตน แล้วสอบได้ที่  1   เรียนอยู่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จึงบอกให้สอบเข้าเรียนนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลปรากฏว่าสอบเข้าได้ติดคนที่   1   พอเรียนจบจุฬาฯแล้วให้ต่อปริญญาโทและให้สอบเนติบัณทิตไทย จะได้เป็นผู้พิพากษา หรือ อัยการ ผลปรากฏว่าเขาได้เป็นผู้พิพากษาแล้วในปัจจุบัน   ตนเองใช้การสรุปจากข้อสอบเก่าหลายปี อย่างเคยสอบได้ที่  1  ของประเทศ เป็นเพราะความขยันเอาข้อสอบประมาณ  10  ปีมานั่งทำ แล้วมาเขียนว่าข้อไหนเหมือนกัน คิดว่าที่เหมือนกันคงมีความสำคัญ  จนสามารถสอบเทียบ มศ.  5  ได้


           
  ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีรับสั่งให้ตนเข้าเฝ้า เพราะเห็นชื่อ จากที่ได้คะแนน  98.28   คะแนน รับสั่งจะพระราชทานทุนให้ไปเรียน  ตนเองบอกกับพระองค์ท่านว่า ต้องการเป็นบาทหลวง ขออนุญาตเรียนเป็นบาทหลวง พระองค์มีรับสั่งว่า “ งั้นตามใจลูก ”  หลังจากที่ตนเองจบจากที่นี่แล้ว  จริง ๆ จะต้องไปเรียนที่บ้านเณรกลาง ที่ จ.นครราชสีมา  และเตรียมเข้าแสงธรรม  สำหรับการใช้ภาษาตอนนี้มีหลายภาษา แต่หากไม่ได้ใช้ก็จะทำให้หลงลืมได้ จึงจำเป็นต้องพูดทุกวัน  คิดว่าถ้ากลับมาสอนเด็ก ๆ จะได้ไม่หลงลืม อย่างภาษาอังกฤษเด็กจะได้คำศัพท์ จากที่ลงมือเขียนจำได้แน่นอน 


          
   โดยตลอดระยะเวลา  29  ปี ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีโอกาสรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่  9  มานั้น ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจอย่างหาที่สุดมิได้ และคงเหลือเวลาอีกไม่นานที่จะต้องกลับไปทำงานเขียนขั้นตอนการปฏิบัติให้กับหน่วยงานโครงการต่าง ๆ ในปัจจุบันอีกครั้ง  
          
  นี้คือประวัติของคนหาปลา ที่หลายคนไม่เคยรู้  ท่านคือ ดร.สุรพล  สินเกตุ  นักล่าปลาหมอคางดำ ปริญญาเอก 3 ใบ

โดย:ดุสิต จิรภัทรากร