สถานการณ์การระบาดของ "ปลาหมอคางดำ" มาตรการต่างๆที่หลายฝ่ายกำลังร่วมมือเร่งแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน หรือแม้แต่ประชาชนทั่วไปที่เชิญชวนกันสรรหาเมนูอร่อยเพื่อร่วมด้วยช่วยกันบริโภคลดปริมาณของมัน ทำให้กระแสของปลาชนิดนี้ยังคงอยู่ในความสนใจของผู้คน 

อีกหนึ่งมิติที่หลายคนให้ความสนใจคือการตามล่าหาคนผิด โดยมีแกนนำหลักเป็น NGO อย่าง มูลนิธิชีววิถี หรือไบโอไทย (Biothai) ที่โพสต์เรื่องราวด้วยการตั้งธงให้เอกชนผู้นำเข้าปลาหมอคางดำอย่างถูกต้องนั้น ต้องตกเป็นจำเลยของสังคมให้ได้ ไม่ว่าข้อมูลที่สร้างขึ้นเองหรือแชร์มาจะเป็นเท็จหรือไม่ก็ตาม ซึ่งไม่เป็นผลดี 

ยกตัวอย่าง ภาพที่อ้างว่าเป็นฟาร์มยี่สารนั้นก็ไม่ใช่ฟาร์มยี่สารจริง เนื่องจากในบริเวณใกล้เคียงฟาร์มยี่สารไม่มีอาคารสูงอยู่ในรัศมีถ่ายภาพได้ แต่ภาพฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำที่ไบโอไทยใช้กลับปรากฏอาคารสูง (ในกรอบสีแดง) อย่างชัดเจน แค่เริ่มต้นเปิดฉากฟาร์มยังปลอม แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าข้อมูลอื่นๆนั้นน่าเชื่อถือ 

ถัดมาอีกตัวอย่างหนึ่ง เมื่อ 21 กรกฎาคม 2567 ไบโอไทยเลือกแชร์โพสต์จาก ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ครายหนึ่ง เป็นภาพแผนผังของฟาร์มที่ระบุว่า “เปิดกระบวนการเลี้ยงปลา ฟาร์มยี่สาร สมุทรสงคราม” ... ถ้าดูจากแผนผังภาพประกอบจะเห็นว่า ได้สร้างความเข้าใจผิดให้ผู้อ่านไปแล้วว่าฝั่งซ้ายมือของภาพเป็นบ่อเลี้ยงปลา ทั้งที่จริงๆแล้ว บ่อฝั่งซ้ายทั้งหมดเป็นบ่อเลี้ยงกุ้ง แน่นอนว่ามันทำให้ผู้คนเข้าใจผิดไปตามเจตนารมณ์ของไบโอไทยทันทีว่าที่นี่คือบ่อเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ ขณะที่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งและปลามานานกว่า 30 ปี กล่าวว่า ภาพในบ่อมันฟ้องเพราะเครื่องตีน้ำกินไฟไม่น้อย หากเลี้ยงปลากิโลกรัมละไม่กี่สิบบาท ไม่คุ้มค่าไฟแน่นอน ภาพบ่อที่มีเครื่องตีน้ำมากมายจึงเป็น “บ่อกุ้ง” เท่านั้น ... แม้ต่อมาจะมีการแก้ไขภาพ แต่มันก็ทำให้สงสัยในข้อมูลต่างๆ ที่ไบโอไทยนำเสนออยู่ดี  

การเลือกแชร์ข่าวจากแหล่งใดก็ตาม ควรพิจารณาให้รอบคอบและตระหนักถึงความถูกต้องเป็นหลัก เฟซบุ๊คดังกล่าว ที่ได้รับการแชร์จากไบโอไทยหลายครั้ง เป็นอีกผู้หนึ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ภาพถ่ายปลาหมอคางดำในตู้เลี้ยงปลาของต่างประเทศ แล้วเอามาให้ข้อมูลเท็จแก่สังคมว่าเป็น “ภาพจริง ปลาหมอคางดำ ล็อตนำเข้า” กระทั่งมีผู้คอมเม้นท์ว่า เสริชเจอภาพนี้ในเว็บจีนและเว็บต่างประเทศ จึงยอมเปลี่ยนคำชวนเชื่อเสียใหม่ว่าเป็นภาพเปรียบเทียบ 

นี่ยังไม่ได้พูดถึงการใช้โดรนละเมิดพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าได้รับอนุญาตจากเจ้าของสถานที่ หรือแม้แต่ภาพการเพาะเลี้ยงปลาที่เป็นวิถีปกติของการเตรียมเลี้ยงหรืออนุบาลปลานิลปลาทับทิม ก็ยังถูกนำมาอ้างว่าเป็นการเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำ โดยไม่มีภาพปลาหมอคางดำสักตัว ที่สำคัญ หากมีการเลี้ยงต่อมาหลายปีย่อมต้องมีเอาออกมาขาย แต่กลับไม่เคยพบการซื้อขายปลาหมอคางดำเลยตลอดเวลาที่ผ่านมา จะมีก็แต่ขายแต่ปลานิล ปลาทับทิม เท่านั้น 

หลายคนจึงตั้งคำถามถึงข้อมูลต่างๆ ที่ไบโอไทยสื่อสารออกมาว่ามีเครดิตน่าเชื่อถือเพียงใด แม้การใส่ข้อมูลเพื่อชวนให้ผู้คนเห็นด้วยและคล้อยตามจะเป็นทักษะที่ไบโอไทยมีอยู่แล้ว แต่หากทำบนอคติที่พยายามยัดเยียดข้อหาให้ผู้อื่น และตัดสินเอาเองว่าสิ่งที่ตนมีตนได้รับมานั้นแม่นยำ ก็อาจเป็นจุดอ่อนที่เอกชนผู้ได้รับผลกระทบสามารถนำไปดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง