ตำรวจบางเลน ปิดล้อมนานกว่า 3 ชั่วโมงรอควบคุมตัวอดีตสมาชิกอบต. คุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนยิงใส่ศีรษะญาติวิดดับโชคดีกระสุนไม่เข้าจุดสำคัญ ขณะที่ญาติมือยิงเผยทั้งคู่ไม่เคยมีปัญหากันแต่ทราบว่ามือเย็นน่าจะมีอาการขาดยาที่ควบคุมอาการจึงก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์นี้มานานแล้ว

วันที่ 26 ก.ค.67 เวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐมได้รับแจ้งเหตุว่ามีการยิงกันในพื้นที่ หมู่ 1 ตำบลบางปลา อำเภอบางเลน จึงได้ประสานกำลังกันเข้าตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าวโดยพบว่า คนก่อเหตุยังเก็บตัวอยู่บ้านพัก ส่วนคนถูกยิงได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบางเลนก่อนหน้า 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปที่  บ้านเลขที่ 38 ม.1 ต.บางปลา อ.บางเลน ทราบ ชื่อผู้ก่อเหตุคือนาย สมยศ  อายุ 60 ปี เป็นอดีต ส.อบต. ได้ก่อเหตุ ยิงญาติของตัวเองคือ นาย อำนวย  อายุ 60 ปี บาดเจ็บ กระสุนเฉียดศรีษะ มีบาดแผลเล็กน้อยแพทย์ช่วยปฐมพยาบาลอาการอยู่ในขั้นปลอดภัย 

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่านายสมยศ  มือยิง ยังเก็บตัวอยู่ในบ้านพักและไม่ยอมออกจากบ้านเจ้าหน้าที่พยายามส่งสัญญาณเกลี้ยกล่อมและประสานหน่วย นปพ.ภ.จว.นครปฐม เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่คอมมานโดและเจ้าหน้าที่เจรจาเข้ามาติดตามสถานการณ์ดังกล่าวเนื่องจากจะเกิดอันตรายเนื่องจากคนร้ายยังมีอาวุธปืนอยู่ในมือ และทราบว่ามีอาการคุ้มคลั่ง เนื่องจากขาดยาที่รับประทานเป็นประจำ

สอบถาม นาง ประนอม  อายุ 76 ปี กล่าวว่า  นายอำนวยนั่งกินข้าวอยู่หน้าบ้าน จู่ๆนาย สมยศ ขี่รถ จยย มาจอดหน้าบ้านแล้วยิงปืนเข้ามาใส่นายอำนวย จากนั้น นาย อำนวยได้วิ่งไปแย่งปืน แต่ตามไม่ทัน  นายสมยศ วิ่งหนีไป โดยนาย อำนวยได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนเฉียดศรีษะ มีเลือดออก ญาติช่วยกันนำส่ง ร.พ.บางเลน 

นางประนอม กล่าวอีกว่า ปกติแล้วนายสมยศก็จะไม่ได้เป็นคนเกรี้ยวกราดอะไร และยังเป็นลูกพี่ลูกน้องโดยเป็นญาติผู้พี่ของนายอำนวยเจอหน้ากันก็ยังหาข้าวหาปลามาแบ่งกัน แต่นานมาแล้วที่นายสมยศเคยเกิดอาการคุ้มคลั่งและมีการออกมายืนด่าคนรวมถึงชักอาวุธปืนออกมา ซึ่งก็ทราบว่าจะต้องมีการไป พบแพทย์เพื่อรับยาให้มากินเป็นประจำแต่เหมือนว่าเมื่อวานนี้นายสมยศจะไม่ได้กินยาหรือเหมือนจะมีลักษณะว่าขาดยาจึงได้เกิดอาการคุ้มคลั่ง ซึ่งตนเองนั่งอยู่ติดกับนายอำนวย รู้สึกตกใจและขวัญผวาเนื่องจากกระสุนผ่านตัวเองไปไม่ไกลและไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ในช่วงหัวค่ำ

โดยจากการประเมินสถานการณ์ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการส่งสัญญาณให้มีการเข้าหาตัวนายสมยศแต่อย่าง และการสื่อมวลชนให้ออกห่างจากพื้นที่โดยห้ามเปิดไฟส่องสว่างหรือใช้ Flash จากโทรศัพท์มือถือ เพื่อป้องกันไม่ให้นายสมยศเกิดความเครียดและอาจจะมีอาการคุ้มคลั่งลั่นกระสุนออกมาจากตัวบ้าน ส่วนความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป