เจ๊แต๋วปลาสลิด “เพชฌฆาตปลาแล่เนื้อ” ท้าชนไอ้คางดำ บอกให้ระบาดเข้ามาในพื้นที่ให้มากๆ จะเฉือนตากแห้งขายให้เกลี้ยง เผยขายปลาตากแห้งแดดเดียวมานานกว่า 40 ปี เคยเฉือนปลาหมอเทศระบาดหนักชายฝั่งจนหมดเกลี้ยงทะเลมาแล้ว ถึงขั้นสาบสูญหายไปเป็นตำนานในย่านนี้ 

วันที่ 26 ก.ค.67 เวลา 14.30 น. นางธัญพร อินทรวงษ์ (เจ๊แต๋วปลาสลิด) อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ม.12 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ แม่ค้าขายปลาสลิดแดดเดียว บริเวณย่านปากคลองปีกการิมถนนสุขุมวิทสายเก่า (สาย 3) พื้นที่แนวตะเข็บรอยต่อระหว่าง ม.8 ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และ ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ กล่าวถึงการระบาดของปลาหมอคางดำ ที่กำลังรุกคืบเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และเริ่มมีประชาชนจับได้จากคลองสาธารณะขึ้นมาบริโภคได้เกือบทุกวันว่าขอให้ปลาหมอคางดำระบาดเข้ามาให้มากเพียงพอที่จะนำมาทำปลาตากแห้งแดดเดียวขายจริงๆ เพราะมีคนเข้ามาถามหาซื้อกินอยู่หลายราย

แต่ปัจจุบันยังมีระบาดเข้ามาจำนวนน้อยไม่มากเพียงพอที่จะนำมาเฉือนผ่าท้องตากแห้งขายได้ หากมีเข้ามามากๆ จะรับซื้อไม่อั้น เพื่อเฉือนตากขายให้หมด แบบไม่มีหลงเหลืออยู่ในพื้นที่เลย เพราะเคยทำมาแล้วกับปลาหมอเทศน้ำเค็ม ที่เคยระบาดหนักตามแนวชายฝั่งทะเลย่านนี้เมื่อกว่า 30 ปีก่อน ตนก็ได้รับซื้อนำมาเชือดตากขายจนหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือมาแล้ว เพราะปลาหมอเทศนั้นกินอร่อยและยังมีกลิ่นหอม ส่วนปลาหมอคางดำนั้นยังไม่เคยกินแต่น่าจะเหมือนกับปลานิล

อีกทั้งรูปร่างลักษณะของปลาหมอคางดำก็ยังคล้ายคลึงกันกับปลานิลมาก เมื่อตัดหัวออกไปแล้วคนก็อาจไม่รู้ เขาก็กินกันได้หมด ขณะที่ปลานิลในปัจจุบันมีเหลือน้อยมาก และราคาแพงขึ้นทั้งยังขาดตลาดอีกด้วย ทราบมาจากชาวบ้านว่าปลาหมอคางดำมีระบาดเข้ามาในพื้นที่แล้ว แต่ตนยังไม่เคยพบเจอกับตัวเอง แต่หากมีคนนำมาขายให้ก็จะรับซื้อมาทำตากแห้งแดดเดียว โดยเชื่อว่ายังมีระบาดเข้ามาไม่มาก ไม่พอที่จะนำมาเชือดตากแห้งขาย “หากมีมาจริงๆ จะหั่นให้หมดเลย” ปลาอะไรที่ว่าดุก็ไม่กลัวทั้งนั้น จึงยังไม่รู้สึกว่าจะตื่นตระหนกอะไร

แม้ปลาหมอคางดำจะถูกตีราคาต่ำหรือไม่มีราคา แต่หากนำมาแปรรูปทำเค็มแล้ว ก็จะกลายเป็นของที่มีราคาขึ้นมาได้ทั้งหมด เพราะทำให้คนกินได้ โดยรัฐบาลจะต้องสนับสนุนการกำจัดด้วยการรับซื้อแล้วนำมาขายให้แก่แม่ค้าเชือดทำปลาเค็มในราคาถูกไม่เกิน 10 บาท