"สาว" เกาะหน้ารถเก๋งชนแล้วหนี เข้าแจ้งความเพิ่มเติม

จากกรณีที่เมื่วันที่ 24 กรกฎาคม มีหญิงสาวกระโดดเกาะหน้ารถเก๋งฮอนด้า บริโอ้ สีขาว ทะเบียน กบ 9674 กาญจนบุรี เพื่อพยายามหยุดรถดังกล่าว ที่ขับชนรถเธอแล้วหนี จนได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย 

ล่าสุด เมื่อวัน 26 ก.ค.67 พ.ต.ท.ชัยธัช เชียงทา รองผู้กำกับสืบสวน สน.ดุสิต กล่าวว่า เมื่อวานนี้หลังจากที่ผู้บาดเจ็บมาแจ้งความไว้ที่สน.แล้วก็ได้ออกหมายเรียกให้เข้ามาให้ข้อมูล เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม แต่ก็ยังไม่เข้ามาพบพนักงานสอบสวน และทราบว่าเจ้าของรถเก๋งฮอนด้า บริโอ้ สีขาว เป็นผู้ชาย ซึ่งได้ประสานไปแล้วจนทราบว่า ผู้หญิงที่ปรากฎในคลิป เป็นเพื่อนของเจ้าของรถ ชื่อ พร และได้ยืมรถมากรุงเทพฯ แต่ไม่ได้บอกว่าทำอะไร รวมถึงเจ้าของรถได้โทรศัพท์ไปหา พร เพื่อให้มาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งทาง พรก็รับปากว่าจะเข้ามาเมื่อวานนี้ ( 25 กรกฎาคม) แต่เมื่อเช้าวันนี้ ตำรวจติดต่อไปอีกครั้งก็ติดต่อไม่ได้ / ซึ่งตอนนี้ได้ขอให้สืบจังหวัดกาญจนบุรี ช่วยติดตามตัว

เมื่อถามว่า พฤติการณ์ของ พร ที่จงใจขับรถด้วยความเร็วเพื่อสะบัดตัวผู้บาดเจ็บให้ตกออกจากรถนั้น ถือเป็นการเจตนาทำร้ายผู้อื่นให้เป็นอันตรายหรือไม่ พ.ต.ท.ชัยธัช ก็บอกว่าต้องดูที่พยานหลักฐานประกอบ แต่เบื้องต้นตำรวจจะดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย และขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น 

ต่อมาเวลา 13.10 น. คุณเปิ้ล ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้หญิงเสื้อน้ำเงินปรากฏภายในคลิป เดินทางมาที่ สน.พญาไท เพื่อแจ้งความเพิ่มเติมกับคู่กรณี ในข้อหาชนแล้วหนี เนื่องจากเกิดเหตุบริเวณหน้าโรงพยาบาลราชวิถีซึ่งเป็นพื้นที่ของสน.พญาไท หลังจากที่มีการแจ้งความในข้อหาเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายไว้ที่สน.ดุสิต

ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายที่ สน.ดุสิต พนักงานสอบสวนได้แนะนำให้ตนเองมาที่สน.พญาไท เพื่อแจ้งข้อหาชนแล้วหนีเพิ่มเติมกับคู่กรณี เนื่องจากว่าจุดที่เกิดเหตุเป็นของพื้นที่สน.พญาไท เพราะจุดกลับบริเวณที่เกิดเหตุการณ์เกาะรถแยกอู่ทองใน พื้นที่ของ สน.ดุสิต

ซึ่งก่อนที่จะเดินทางมาสน.พญาไท ตนเองได้โฟนอินเข้ารายการข่าวช่องหนึ่ง และได้พูดคุยกับ อ.ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความ ก็ได้รับคำแนะนำว่าจากการดูคลิปเหตุการณ์สามารถแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่าได้ เนื่องจากเป็นการขับรถที่มีความเร็วและเห็นว่าตนเองอยู่บริเวณฝากกระโปรงรถแต่ก็ไม่มีการจอด ทำให้พฤติกรรมเข้าข่ายข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งหลังจากนี้ตนเตรียมที่จะเดินทางเข้าไปที่ สน.ดุสิต เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม หากเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวคนขับซึ่งเป็นคู่กรณีได้

สุดท้ายตนเองอยากฝากถึงคู่กรณีว่าให้มาพบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากว่าสิ่งที่ทำลงไปและสถานที่ที่เกิดเหตุเป็นจุดที่ไม่น่าจะทำได้ (เขตพระราชฐาน) ซึ่งเหตุการณ์ที่ผ่านมา 2 วัน ตนเองไม่มีอาการตกใจแล้ว แต่ยังมีการปวดระบมที่บริเวณซี่โครง และหัวเข่าทั้ง 2 ข้าง